Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

กันยายน 6, 2022

Meta บริษัทแม่ของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่เน้นเมตาเวิร์ส กำลังช่วยให้มหาวิทยาลัยมีวิทยาเขตเสมือนจริงของตนเองทางออนไลน์ บริษัทจะเปิดวิทยาเขตเสมือนจริง 10 แห่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Immersive Learning  ที่พยายามนำพาการศึกษาไปสู่สภาพแวดล้อมเสมือนจริง ด้วยความร่วมมือกับ Victoryxr บริษัทสตาร์ทอัพด้านการศึกษาเสมือนจริงในรัฐไอโอวา Meta จะลงทุน $150 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการริเริ่มนี้ Meta นำพามหาวิทยาลัยเข้าสู่เมตาเวิร์ส หนึ่งในการใช้งานที่ใหญ่ที่สุดของเทคโนโลยีความจริงเสมือนและเทคโนโนโลยีเมตาเวิร์สนั้นเกี่ยวข้องกับการศึกษาและความเป็นไปได้ของชั้นเรียนเสมือนจริงที่เป็นจริง Meta บริษัทแม่ของโซเชียบมีเดียยักษ์ใหญ่ กำลังดำเนินการเดินตามแนวคิดนี้ โดยช่วยให้มหาวิทยาลัย 10 แห่ง เปิดตัวแคมปัสในเมตาเวิร์ส หนึ่งในนั้นคือ University of Maryland Global Campus (UMGC) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยออนไลน์ มีนักศึกษามากกว่า 45,000 ราย ตอนนี้จะสามารถพบกันในเมตาเวิร์สออนไลน์เพื่อพบปะและแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขากัน Daniel Mintz ประธานแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศของ UMGC กล่าวว่า “เราไม่เคยมีแคมปัสมาก่อน และตอนนี้เรามี

การเปิดตัวอวตาร NFT จำนวนจำกัดของ Reddit นำไปสู่การขายราคาพรีเมียในตลาดรองบน OpenSea จำนวนมาก ยอดขายอวตารที่ใช้บล็อกเชนของ Reddit ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพิ่มขึ้นในมาร์เก็ตเพลซ NFT อย่าง OpenSea ทำได้ดีกว่าร้านค้ากรรมสิทธิ์ของแพลตฟอร์ม หน้าแรกของเว็บ Reddit เชื่อมต่อกับโลก NFT ที่กำลังเติบโต ด้วยการประกาศออกของสะสมอวตาร (collectible avatars) ในเดือนสิงหาคม 2022 และสร้างรายได้นับพันล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ศิลปินแล้ว ผู้ใช้งาน Reddit สามารถซื้ออวตารที่หลายหลายสำหรับโปรไฟล์ของตนได้ด้วยการใช้ Vault กระเป๋าเงินคริปโตของ Reddit โดยรับบัตรเครดิตและเดบิตในการชำระเงินอีกด้วย Reddit Avatars ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปินอิสระจำนวนหนึ่งที่ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวและสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Polygon เนื่องจาก OpenSea มีฟีเจอร์รองรับทั้งบล็อกเชน Ethereum, Polygon, Klaytn และ Solana ตอนนี้ Reddit NFT จึงถูกขายในราคาพรีเมียมในตลาด NFT ยอดนิยม ปัจจุบัน NFT สามารถซื้อได้ที่หน้าสโตร์ Reddit Avatar ตั้งแต่ราคา $5 ถึง $49 ขณะที่ NFT ที่มีราคา $50 หรือมากกว่าตอนนี้ขายหมดแล้ว และยังคงมีอยู่ใน OpenSea ทั้งนี้มีช่วงราคาสูงกว

ความล้มเหลวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งจากผู้ออกคริปโต ตลาดซื้อขายคริปโต และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ เป็นแรงจูงใจหลักแก่ผู้อยู่เบื้องหลังผลักดันกำกับควบคุมคริปโตที่ดีขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สินทรัพย์คริปโตได้เปลี่ยนจากการเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม (niche products) ไปสู่กระแสหลักมากขึ้น กระตุ้นให้จำเป็นต้องมีการกำกับควบคุมวงการนี้มากขึ้น IMF กล่าว ในรายงานใหม่ล่าสุด Aditya Narain ผู้อำนวยการด้านตลาดทุนของ IMF และ Marina Moretti ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ ตั้งข้อสังเกตว่า สินทรัพย์คริปโตนั้นเปลี่ยนจากเป็น “ผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม” ไปสู่การลงทุนเพื่อการเก็งกำไร การป้องกันจากสกุลเงินที่อ่อนแอ และเครื่องมือเพื่อการชำระเงิน ผู้เขียนรายงานดังกล่าว ยังเสริมว่า ความล้มเหลวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งจากผู้ออกคริปโต ตลาดซื้อขายคริปโต และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ เป็นแรงจูงใจหลักแก่ผู้อยู่เบื้องหลังผลักดันกำกับควบคุมคริปโตที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การพัฒนากรอบกำกับดูแลสำหรับสินทรัพย์คริปโตนั้นเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากมาก ตามความเห็นของทั้งสอง กล่าวว่า เนื่องจากพัฒนาการของตลาดรวดเร็ว ความยากลำบากในการติดตาม และการขาดทักษะที่ใช้งานระหว่างหน่วย

คนใช้งาน Crypto Twitter ชื่อ FatManTerra อธิบายว่า แผนการลงทุนปลอมถูกใช้เพื่อสอนบทเรียนเกี่ยวกับการลงทุนสุ่มสี่สุ่มห้าที่ครอบงำโดยอินฟลูเอนเซอร์ FatManTerra ผู้มีอิทธิพลคริปโต อ้างว่าได้รวบรวม Bitcoin (BTC) มูลค่ากว่า $100,000 จากนักลงทุนคริปโตในโครงการที่ถูกเปิดเผยว่าเป็นของปลอมในภายหลัง นักวิจัยคริปโตกล่าวว่า เขาสร้างแผนการลงทุนปลอมขึ้นมาเพื่อทดลอง และสอนบทเรียนแก่ผู้คนเกี่ยวกับสุ่มสี่สุ่มห้าทำตามนักลงทุนผู้มีอิทธิพล บัญชี Twitter ดังกล่าวมีผู้ติดตามประมาณ 101,100 ราย และส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักในฐานะอดีตผู้สนับสนุน Terra ซึ่งตอนนี้พูดต่อต้านโครงการและ Do Kwon ผู้ก่อตั้งอย่างแข็งขั้น หลังจากล่มสลาย $40 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนพฤษภาคม ในทวีตเมื่อวันที่ 5 กันยายน FatManTerra บอกผู้ติดตามเขาว่า “ได้รับการเข้าถึงฟาร์ม BTC ที่ให้ผลตอบแทนสูง” โดยกองทุนที่ไม่มีชื่อ และบอกว่าผู้คนสามารถส่งข้อความหาเขาได้หากพวกเขาต้องการในโอกาสการทำฟาร์มทำกำไร “ฉันได้ทำเต็มที่แล้ว ดังนั้นจึงมีการจัดสรรที่เหลือ และฉันคิดว่าจะส่งต่อมันออกไป จะให้ความสำคัญกับเหยื่อ UST ก่อน ส่งข้อความหาฉันหากสนใจขอรายละเอียดเพิ่มเ

การดำเนินการดังกล่าวจะถอด USDC เหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก ในฐานะสินทรัพย์ที่ซื้อขายได้บนแพลตฟอร์มของ Binance ตลาดซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี Binance จะแปลงการถือครองเหรียญ Stablecoin ต่าง ๆ USDC, USDP และ TUSD เป็น BUSD เหรียญ stablecoin ของตนเองแทน เวลา 03:00 UTC ของวันที่ 29 กันยายน ยอดคงเหลือของผู้ใช้งานทั้งสามเหรียญ Stablecoin จะถูกแปลงเป็น BUSD โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถแปลงด้วยตนเองก่อนเวลาดังกล่าวได้หากต้องการ ตลาดซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า กำลังดำเนินการเรื่องนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและประสิทธิภาพด้านเงินทุนสำหรับผู้ใช้งาน  การดำเนินการดังกล่าวจะถอด USDC เหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก ซึ่งมีมูลค่าตลาดเกือบ $52 พันล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบกับ USDT ที่ $67.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นสินทรัพย์ที่ซื้อขายได้บนแพลตฟอร์มของ Binance ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อ Circle Internet Financial ผู้ออกเหรียญ USDC ด้วยมูลค่าตลาดที่ $19.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ BUSD เป็นเหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดอันดับสาม ขณะที่ TUSD

Follow us

Most read in category

Digital currency