สำหรับเหรียญ ETH หรือ Ether จัดเป็นเหรียญที่คนให้ความสนใจมาก และเป็นคริปโทเคอร์เรนซี่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และกำลังมีมูลค่าทะลุ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐเรียบร้อยแล้ว จนกลายเป็นเหรียญที่ทำมูลค่าสูงที่สุดประวัติศาสตร์ จุดเริ่มต้นของ ETH เกิดขึ้นมาจากไหน เดี๋ยวเราจะพาไปทำความรู้จักกับมหาเศรษฐีของโลก เจ้าของเหรียญในวัย 27 กัน
จุดเริ่มต้นจากมหาเศรษฐีวัย 27 ปี
เหรียญ ETH เริ่มจากเด็กหนุ่ม ที่มีชื่อว่า “Vitalik Buterin” เป็นชาวรัสเซีย จุดเริ่มต้นต้องย้อนไปตอนอายุ 17 พ่อของเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และได้แนะนำให้ลูกชายรู้จักกับบิตคอยน์ แม้ในช่วงแรกเขาจะไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่ายังไงก็ล้มเหลว เนื่องจากไม่ได้มีมูลค่าเป็นของตัวเอง แต่พอได้ยินเรื่องบิตคอยน์จากคนรอบตัวบ่อยขึ้น เขาจึงตัดสินใจศึกษาเทคโนโลยีของบิตคอยน์อย่างจริงจัง จนกลายเป็นความหลงใหล และเขาได้ก่อตั้งนิตยสาร Bitcoin Magazine เพื่อศึกษาเรื่องคริปโทเคอร์เรนซี่ โดยเขาทำทั้งหมดนี้ในวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น
เปิดตัวเหรียญ Ethereum
ระหว่างที่เขาศึกษาบิตคอยน์แบบลงลึกมากขึ้น เขาจึงเห็นไอเดียที่จะสร้างบล็อกเชนขึ้นมาใหม่ ให้ครอบคลุมการทำธุรกรรมมากขึ้น โดยให้นักพัฒนาเข้ามาสร้าง Smart Contracts เพื่อให้นำคริปโทเคอร์เรนซีไปค้ำประกัน, ปล่อยกู้ หรือนำไปซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและอีกหลายธุรกรรมได้ โดยเรียกระบบนี้ว่า “Ethereum Blockchain” จากนั้นไม่นานเขาได้รับเงินจากกองทุน “Thiel Fellowship” ซึ่งเป็นกองทุนที่ให้เงินสนับสนุนแก่นักศึกษาที่ออกจากมหาวิทยาลัยในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีต่อโลก จนในที่สุดเหรียญ ETH ได้เปิดตัวครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ปี 2015 และถูกพัฒนามาเรื่อยๆ
รากฐานใหม่ของ Ecosystem
เหรียญ ETH กลายมาเป็นรากฐานของระบบ Ecosystem จากการนำคริปโทเคอร์เรนซีไปใช้ ณ ปัจจุบัน เช่น DeFi หรือ Decentralized Finance ระบบการเงินรูปแบบใหม่ ที่สามารถทำธุรกรรมได้ตั้งแต่ การฝากเงิน , การกู้ยืม , การค้ำประกัน , การทำประกัน ไปจนถึงการลงทุนด้วยคริปโทเคอร์เรนซี พอทำธุรกรรมแบบไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างสถาบันการเงิน ก็ส่งผลให้เราทำธุรกรรมทางการเงินได้รวดเร็วมากขึ้นด้วย ไม่นานมากนี้มูลค่าของเหรียญได้พุ่งขึ้นสูง 3,400 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ผู้ก่อตั้ง อย่าง Vitalik Buterin ถูกประเมินมูลค่าทรัพย์สินเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
และทั้งหมดนี่เป็นเรื่องราวของเหรียญ ETH หนึ่งในสกุลเงินดิจิทัล อันดับที่ 2 ของโลก และประวัติของเจ้าของเหรียญ ที่มองเห็นโอกาส และใช้ความรู้ที่มี ลงมือในธุรกิจ จนผลักดันตัวเองให้ประสบความสำเร็จระดับโลก แม้จะมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำแบบนี้ได้ แต่มุมหนึ่งที่เห็นได้ชัดของเจ้าของเหรียญ คือความพยายามศึกษาข้อมูล และทุ่มเทเวลาให้กับสิ่งที่เขาอยากทำ โดยเราสามารถนำแนวคิดของเขามาเป็นแบบอย่างได้
