Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

Facebook

เทคโนโลยีทางระบบประสาทใหม่ที่ Meta พัฒนาอยู่นั้น “สุดยอดมาก” Zuckerberg กล่าวเสริมว่าการใช้งานครั้งแรกจะเป็นสำหรับแว่นตา AR Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ได้บอกเป็นนัยว่า บริษัทของเขากำลังประสบความคืบหน้าเกี่ยวกับ “อินเทอร์เฟซทางระบบประสาทสำหรับผู้บริโภค” ชิ้นแรก ซึ่งเป็นอุปกรณ์สวมใส่แบบไม่รุกล้ำที่สามารถตีความสัญญาณสมองเพื่อควบคุมคอมพิวเตอร์ หนึ่งในสิ่งที่ฉันตื่นเต้นมากคือฉันคิดว่าเราจะเริ่มมีอินเทอร์เฟซระบบประสาทสำหรับผู้บริโภคเร็ว ๆ นี้ ฉันคิดว่ามันจะเจ๋งมาก Elon Musk และ Mark Zuckerberg ต่างก็พยายามพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้มนุษย์สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยความคิดได้ แต่ทั้งสองเทคโนโลยีมีความแตกต่างกันดังนี้ Neuralink ของ Elon Musk ฝังอุปกรณ์เข้าไปในสมองโดยตรงเพื่ออ่านสัญญาณประสาทจากสมอง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยความคิดโดยไม่ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย อุปกรณ์สวมใส่ ของ Mark Zuckerberg สวมใส่ที่ข้อมือเพื่ออ่านสัญญาณประสาทจากเส้นประสาทที่ส่งจากสมองไปยังมือ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยการเคลื่อนไหวมือที่ละเอียดอ่อน Meta เริ่มพูดถึงการ

บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายงานว่า สูญเสีย $4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในแผนกในไตรมาสที่สี่ของปี 2022 โดยมีรายรับ $727 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Meta Platforms (META) ยังคงสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลอย่างต่อเนื่องในแผนก Facebook Reality Labs (FRL) ที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง ซึ่งประกอบด้วยการดำเนินงานด้านความเป็นจริงเสริมและความเป็นจริงเสมือนจริง ตามรายงานผลประกอบการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา FRL ขาดทุน $4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้ ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขาดทุน $4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มขึ้นจากการขาดทุน $3.7 พันล้านดอลลาร์ฐรัญในไตรมาสที่สาม ตลอดทั้งปี 2022 Meta สูญเสีย $13.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในส่วนของรายรับ $2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากการขาดทุน $10.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและรายรับ $2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 บริษัทเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า คาดว่าผลขาดทุนจากการดำเนินงานของ FRL ในปี 2023 จะเพิ่มขึ้น “อย่างมีนัยสำคัญ ” ในปี 2022 เมื่อ Meta ลงทุนในสิ่งที่เห็นว่าเป็นส่วนสำคัญในอนาคต Meta ยังรายงานรายได้ FRL ในไตรมาสที่สี่ที่ $727 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากรายรับของแผนกในปีที่แล้

Meta Platforms Inc. บริษัทแม่ของ Facebook จะยังคงอุทิศประมาณ 20% ของต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับ Reality Labs ในปี 2023 แม้จะมีประเด็นคำถามเกี่ยวกับแผนกธุรกิจที่มุ่งเน้นไปที่ความเป็นจริงเสริมและเสมือนจริงและสิ่งที่เรียกว่าเมตาเวิร์สอยู่ก็ตามที การคาดการณ์โดย Andrew Bosworth ซีทีโอในบล็อกโพสต์เมื่อวันจันทร์มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจาก 18% ของการใช้จ่าย Meta ที่ทุ่มเทให้กับ Reality Labs ในไตรมาสที่สาม นั่นหมายความว่าการลงทุนจำนวนมากของบริษัทจะยังคงมุ่งไปสู่สิ่งที่ Meta เรียกว่า “family of apps” หรือแอพในเครือ นั่นคือ Facebook, Instagram, WhatsApp และ Messenger หุ้น Meta ลดลงเกือบ 65% ในปีนี้ และบางคนตั้งคำถามถึงการเดิมพันแสนแพงของ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ด้านเมตาเวิร์ส ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทได้ลดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมถึงการเลิกจ้างอย่างกว้างขวาง Reality Labs รายงานผลขาดทุนจากการดำเนินงาน $9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 9 เดือนแรกของปี ตระกูลแอพของ Meta เมื่อเปรียบเทียบแล้วทำกำไรได้ประมาณ $32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกัน Bosworth กล่าวว่าปี 2022 ยากกว่าที่คาดไว้ “ความท้า

บริษัทแม่ของ Facebook ประกาศว่าจะเลิกจ้างงานประมาณ 13% ของจำนวนพนักงานปัจจุบัน ถือเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท พนักงานปัจจุบันประมาณ 13% จะถูกเลิกจ้างงาน ในจดหมายถึงพนักงานของเขา Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ประกาศเลิกจ้างและย้ำว่าการเลิกจ้างงานเริ่มต้นเมื่อต้นปีนี้ จะขยายไปถึงไตรมาสแรกของปีงบประมาณปีหน้า จากแถลงข่าวของ Meta การเลิกจ้างงาน 11,000 ตำแหน่ง เกิดขึ้นจริงหลังจากมีข่าวลือในช่วงสุดสัปดาห์เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ตามที่ Wall Street Journal รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงใน Zuckerberg กล่าวว่า เขารับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการเลิกจ้าง เนื่องจากจากต้นทุนที่สูงขึ้นและราคาหุ้นร่วงหนักเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันผิดเอง ฉันรับผิดชอบเอง ซีอีโอยังกล่าวอีกว่า การลงทุนมากเกินไปในบางพื้นที่พร้อมกับ “การชะลอตัวของเศรษฐกิจมหภาค การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และการสูญเสียสัญญาณโฆษณา” ทำให้รายได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ ข่าวนี้เกิดขึ้นตามมาหลังจากรายงานที่น่าตกใจที่เผยแพร่โดย Meta เมื่อวันที่ 26 ต.ค. สูญเสียหลายพันล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาของ Reality Labs ซึ่งเป็นแผนก R&D ด้านเมตาเวิร์ส

ณ สิ้นเดือนกันยายน Meta มีพนักงานมากกว่า 87,000 คน ส่วนใหญ่บอกว่าทำงานในแผนก Reality Labs  มีรายงานว่าบริษัทเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ Meta เตรียม “เลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่จำนวนมาก” ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางต้นทุนที่สูงขึ้นและราคาหุ้นร่วงหนักเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตามที่ Wall Street Journal (WSJ) รายงานเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยอ้างถึงคนที่คุ้นเคยในเรื่องนี้ การเลิกจ้างงานตามแผนอาจส่งกระทบต่อพนักงานหลายพันคนในแผนกต่าง ๆ ที่แข็งแกร่งของ Mea กว่า 87,000 คน ปัจจุบันยังไม่เป็นที่ทราบกันว่า แผนก Reality Labs ของบริษัทที่ขาดทุน $3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสที่สามนั้น จะถูกลดพนักงานลงด้วยหรือไม่ ในสัปดาห์ที่แล้ว Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta บอกว่า บริษัทจะเน้นลงทุนใน “พื้นที่เติบโตที่มีความสำคัญสูงจำนวนเล็กน้อย” ได้แก่ artificial intelligence (AI) Discovery Engine และแพลตฟอร์มโฆษณาและการส่งข้อความทางธุรกิจนอกเหนือจากด้านเมตาเวิร์ส นั่นหมายความว่าบางทีมจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทีมอื่น ๆ ยังคงทรงตัวหรือลดลงในปีหน้า … โดยรวมแล้ว เราคาดว่าจะสิ้นสุดปี 2023 ด้วยขนาดที่ใกล้เคียงกัน หรือแม้แต่

บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2021 สะท้อนถึงความทะเยอทะยานที่เพิ่มขึ้นเพื่อก้าวข้ามโซเชียลมีเดีย และเข้าสู่ Web3 และเมตาเวิร์ส (Metaverse) เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วที่ Facebook ยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียเปลี่ยนชื่อเป็น Meta จากการประชุม Facebook Connect เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2021 การเปลี่ยนชื่อสะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในการก้าวข้ามจากโซเชียลมีเดียในอดีต และเข้าสู่โลกของ Web3, คริปโต, NFT และเมตาเวิร์ส โลกเสมือนจริงที่ผู้บริโภคมักจะใช้เวลามากขึ้นทั้งในการทำงานและการเล่น บริษัทกำลังยุ่งมากตอนนี้ ในเดือนธันวาคม 2021 Meta ได้เปิดตัวโครงการเครือข่ายสังคมเสมือนจริง  Horizon Worlds ในขณะเดียวกันก็เปิดโฆษณาสำหรับโฆษณาคริปโตเพิ่มเติมบน Facebook ในเดือนเมษายน 2021 มีรายงานว่าบริษัทกำลังพิจารณาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานภายในเมตาเวิร์ส ซึ่งเรียกว่า Zuck Bucks ทว่าไม่มีการอัพเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในเดือนพฤษภาคม บริษัทได้ยื่นขอจดเครื่องหมายการค้าห้ารายการสำหรับแพลตฟอร์มการประมวลผลการชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย

ไม่ว่าคุณจะเป็นครีเอเตอร์หรือนักสะสม การผนวก  NFT ของ Meta นั้น ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ของสะสมดิจิทัลและยืนยันความเป็นเจ้าของได้ เริ่มต้น Instagram เริ่มทดสอบการแชร์โทเคน NFT บนแพลตฟอร์มในเดือนพฤษภาคม 2022 อนุญาตให้ผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาบางส่วนเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) และโชว์ NFT ที่พวกเขาสร้างขึ้นหรือซื้อได้ ในตอนนั้น Instagram ระบุเอาไว้ว่ามุ่งเน้นการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานด้วยการสร้างโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้นและนำ NFT ไปสู่ผู้ชมในวงกว้างให้มากขึ้น ในเดือนสิงหาคม 2022 แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ขยายการทดสอบไปยัง 100 ประเทศทั่วแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และอเมริกา และเพิ่มการรองรับ Coinbase Wallet และ Dapper Wallet Meta Platforms, Instagram และบริษัทแม่ของ Facebook ได้เริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้บน Facebook แล้ว ในเดือนกันยายน 2022 Meta ได้เปิดตัวความสามารถสำหรับผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาแก่ทุกคนบน Facebook และ Instagram “นอกจากนี้ ทุกคนใน 100 ประเทศที่มีของสะสมดิจิทัลบน Instagram สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้แล้ว” Meta อัพเดท หากคุณสามารถเข้

ผู้ใช้งานใน 100 ประเทศ สามารถเชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) โพสต์ และแชร์โทเคน NFT ได้แล้ว Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ประกาศการเคลื่อนไหวอีกครั้งในโครงการด้านศิลปะดิจิทัล เมื่อวันที่ 29 กันยายน ผู้ใช้งานทั้งหมดบนทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถเชื่อมต่อ Wallet และแชร์โทเคน NFT ได้ทั่วทั้งใน 100 ประเทศ ส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ซึ่งอยู่ในระหว่างการทดสอบตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ผู้ใช้งานจะสามารถแท็กผู้สร้างและนักสะสม และโพสต์ของสะสมดิจิทัลระหว่างแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใด ๆ ในเดือนสิงหาคม Meta อนุญาตให้ผู้ใช้งานโพสต์ของสะสมดิจิทัลที่พวกเขาเป็นเจ้าของบน Facebook และ Instagram และประกาศขยายไปยังประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และอเมริกา บริษัทยังเพิ่มการสนับสนุนด้วย wallet ของบุคคลที่สาม เช่น Rainbow, MetaMask, Trust Wallet, Coinbase Wallet และ Dapper Wallet พร้อมกับรองรับบล็อกเชนของ Ethereum, Polygon และ Flow อีกด้วย ผู้ใช้ Twitter หลายคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่ส่งจากการเชื่อมต่อ digital wallet กับแพลตฟอร์มของ Meta

ผู้ใช้งาน Facebook ตอนนี้ สามารถโพสต์ของสะสมดิจิทัล (digital collectibles) และ NFT ไปยังบัญชีบนแพลตฟอร์มได้แล้ว Meta บริษัทแม่ที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook และ Instagram ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า อนุญาตให้ผู้ใช้งานเพิ่ม digital wallet และสินทรัพย์เสมือนไปยัง Facebook ได้แล้ว ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของบริษัทนำพาให้ NFT เข้าถึงผู้ใช้งาน 2.9 ล้านรายของ Facebook การอัพเดพครั้งนี้ นั่นหมายความว่า ผู้ใช้งานสามารถโพสต์ NFT ได้ทั้งบน Facebook และ Instagram ตามที่ Meta ทวีต ก่อนหน้านี้ Meta อนุญาตให้ผู้ใช้งานโพสต์ของสะสมดิจิทัลของพวกเขาบน Instagram เท่านั้น การผนวกสินทรัพย์ดิจิทัลของ Instagram ขยายไปยัง 100 ประเทศ ตามที่รายงานอัพเดทก่อนหน้านี้ “ในขณะที่เรายังคงเปิดตัวของสะสมดิจิทัลบน Facebook และ Instagram เราก็เริ่มให้ผู้คนสามารถโพสต์ของสะสมดิจิทัลที่พวกเขาเป็นเจ้าของได้ทั้งบน Facebook และ Instagram ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนสามารถเชื่อมต่อ digital wallet ของตนเข้ากับแอพใดแอพหนึ่งได้ แล้วสามารถแชร์ได้ทั้งสองแพลตฟอร์ม” Meta อัพเดทผ่านบล็อกโพสต์  แหล่งข่าว -> theblock.co

Facebook จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสแกนเสื้อผ้าในโลกแห่งความเป็นจริงลงในเมตาเวิร์สได้เพียงแค่ถ่ายรูป Facebook หรือที่รู้จักว่า Meta ได้อ้างสิทธิ์อย่างมากเกี่ยวกับแผนงานเมตาเวิร์ส ซึ่งเป็นโลกเสมือนจริงที่ผู้คนสามารถพบปะ เล่น และทำงาน อย่างไรก็ตาม สิทธิบัตรล่าสุดที่ยื่นโดยบริษัทอาจนำไปสู่หนึ่งในแผนสำหรับผู้ใช้งานเมตาเวิร์ส ผู้เล่นในเกมเสมือนจริงอย่าง VRChat พร้อมสนุกกับการสร้างอวตารที่ปรับแต่งได้ด้วยตนเอง สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าและปรับแต่งตัวตนเสมือนจริง ในขณะที่หลายคนอาจสนุกกับการแปลงโฉมเป็นอวตารดิจิทัลที่ไม่เหมือนตัวเอง และสิทธิบัตรนี้พยายามนำโลกจริงไปสู่เมตาเวิร์ส สิทธิบัตรของ Faceook เผยแพร่เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม และเปิดเผยแผนการพัฒนาระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้งานอัพโหลดเสื้อผ้าของตนเองลงในเมตาเวิร์ส ระบบถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ถ่ายภาพหลายภาพ โดยจะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสี รูปทรง และการออกแบบของสิ่งที่พวกเขาสวมใส่ตลอดจนร่างกายของพวกเขาเอง ข้อมูลนี้จะถูกนำและแปลงเป็นตาข่ายสามมิติ (three-dimensional mesh) ที่อิงจากเสื้อผ้า และอีกข้อมูลหนึ่งอิงจากร่างกาย ในคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ ตาข่ายจะ

Meta รายงาน รายรับ $452 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับแผนกนี้ ลดลงจาก $695 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรก Meta Platforms (FB) ขาดทุน $2.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 2 จากแผนก Facebook Reality Labs (FRL) ได้แก่ การดำเนินการด้านความเป็นจริงเสมือน (VR) และความเป็นจริงเสริม (AR) จากรายงานผลประกอบการที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ นั้นลดลงเล็กน้อยจากการสูญเสีย $2.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรก และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขาดทุน $3.67 พันล้านดอลลาร์สำหรับแผนกดังกล่าว ในไตรมาสนี้  FRL มีรายได้ $452 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่สอง ลดลงจาก $695 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรก นั่นเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของ $28.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่สร้างขึ้นในไตรมาสนี้ จากแอพในเครือ Meta ได้แก่ Facebook, Instagram และ WhatsApp บริษัทกล่าวว่าคาดว่ารายรับจาก Reality Labs จะลดลงในไตรมาสที่สามเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สอง จากรายงานผลประกอบการของบริษัทกับนักวิเคราะห์ คุณ Mark Zuckerberg ซีอีโอกล่าวว่าบริษัทให้ความสำคัญกับเมตาเวิร์สในระยะยาวและการเติบโตของ Reels มากกว่าการเพิ่มรายได้ในระยะสั้นเพื่อสร้างรายได้สูงสุด “การ

แม้จะมีการเปลี่ยนชื่อและพูดถึงเมตาเวิร์สเกินจริง แต่ Facebook ก็เป็นศูนย์กลางของชุดซอฟต์แวร์ Meta สำหรับผู้ใช้งานที่มีส่วนร่วมกับระบบนิเวศที่กว้างขึ้น แม้ว่าจะยังคงเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ แต่ก็ชัดเจนว่าบริษัทกำลังดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่ากลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มถัดไปจะไม่เชื่อมโยงกับเครือข่ายที่อาจยังคงชำระค่าใช้จ่ายอยู่ แต่ไม่ใช่ที่ที่บริษัทเห็นการคิดค้นขึ้นใหม่ เดือนหน้า บริษัทจะแนะนำการเข้าสู่ระบบรูปแบบใหม่ที่เรียกว่าบัญชี Meta account โดยอนุญาตให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่อาจต้องใช้บัญชี Facebook ก่อนหน้านี้ เมื่อเปิดตัว ผู้ใช้งานจะสามารถใช้บัญชี Meta account  เพื่อลงชื่อสมัครใช้และลงชื่อเข้าใช้ฮาร์ดแวร์ Quest ของบริษัท ซึ่งเป็นฟังก์ชันการทำงานที่จะมาสู่อุปกรณ์ Meta อื่นๆ ในอนาคต บริษัทกล่าว ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะเชื่อมโยงบัญชี Meta account  ของตนกับบัญชี Facebook และ Instagram ของตนได้เช่นกันหรือไม่ ต่างจากบัญชี Facebook ผู้ใช้มีอิสระที่จะมีบัญชี Meta หลายบัญชี บริษัท กล่าว การเปลี่ยนแปลงนี้แก้ไขข้อกังวลของผู้ใช้งาน VR บางคนที่บ่นเกี่ยวกับการพึ่งพาการเข้าสู่ระบบโปรไฟ

โดยสรุป Facebook กำลังเปิดตัวฟีเจอร์ NFT บนแพลตฟอร์มของตน แก่ครีเอเตอร์ในสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากเปิดตัวฟีเจอร์ที่คล้ายกันนี้บน Instagram เมื่อเดือนก่อน Meta เริ่มเปิดตัวฟีเจอร์ NFT (non-fungible token) บน Facebook เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอประกาศแผนดังกล่าว ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้เฉพาะกลุ่มครีเอเตอร์ในสหรัฐที่ได้รับการคัดเลือก คล้ายกับที่บริษัทเปิดตัว NFT บน Instagram เมื่อเดือนก่อน โพสต์ Facebook ของ Zuckerberg ยังระบุเอาไว้ด้วยว่า บริษัทกำลังพิจารณา augmented reality NFT และ 3D NFT โดยใช้แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ Spark AR   ข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยันเมื่อวันพุธ เมื่อคุณ Navdeep Singh ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Meta โพสต์ผ่าน Twitter แสดงหน้าจอชี้ให้เห็น Facebook NFT จะปรากฎใต้แท็บ  ‘digital collectibles ของโปรไฟล์ผู้ใช้งาน บน Instagram นั้น NFT ใช้บล็อกเชน Ethereum และ Polygon และจะรองรับ Solana และ Flow ในเร็ว ๆ นี้  แหล่งข่าว -> theblock.co

โดยสรุป โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและแพลตฟอร์มเพย์เมนต์ที่เรียกว่า Meta Pay ก่อนหน้านี้ Meta ได้ซื้อแบรนด์ Meta Pay จากธนาคารสหรัฐฯ มูลค่า $60 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา Meta เดิมชื่อ Facebook ได้ยื่นจดเครื่องหมายทางการค้าห้ารายการในสหรัฐฯ สำหรับสิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ชื่อว่า Meta Pay การยื่นขอจดเครื่องหมายทางการค้าเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม อธิบายว่า Meta Pay เป็น “บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์สำหรับนักลงทุนที่อนุญาตให้ทำการซื้อขายทางการเงินและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล สกุลเงินเสมือน คริปโตเคอร์เรนซี สินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชน โทเคนดิจิทัล และโทเคนคริปโต” นอกเหนือจากเพย์เมนต์และการซื้อขายแล้ว Meta Pay ยังรวมถึงการให้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลและการลงทุน ตามรายงานยื่นขอจดเครื่องหมายการค้า ก่อนหน้านี้บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ ได้ซื้อโดเมนเนม MetaPay.com จาก MetaBank ในเซาท์ดาโกตาด้วยข้อตกลงมูลค่า $60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนธันวาคม 2021 การยื่นจดเครื่องหมายการค้าเป็นการเคลื่อนด้านคริปโตล่าสุดของ Meta ซึ่งประกาศแ

Meta (เดิมชื่อ Facebook) ได้นำ Bitcoin และ Lightning Network มาใช้งาน บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ได้ส่ง LightSpark องค์กรอื่นออกไป ที่ได้รับการสนับสนุนอย่าง Andreessen Horowitz (a16z), Paradigm และอื่น ๆ  หลังจากพยายามส่ง Stablecoin ของตนเองมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ล้มเหลว จึงหันมายอมรับ Bitcoin LightSpark จะสร้างรากฐานหลังบ้านสำหรับองค์กรกระตือรือร้นในการใช้เครือข่าย Lightning Network ของ Bitcoin ซึ่งดำเนินการโดยมีต้นทุนต่ำผ่านช่องทางการชำระเงินในการแลกเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น การซื้อเอสเปรสโซ่ เป็นต้น … แม้จะมีปัญหาแฝงเกิดขึ้นในเวอร์ชั่นแรก ๆ ของ Lightning แต่ก็เดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสามารถใช้จ่ายเงินเพียงเล็กน้อยโดยไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเกินจริง Blockstream องค์กรคู่แข่งที่ใกล้ชิดที่สุดของ Lightspark เป็นองค์กรโครงข่าย (framework organization) ที่ใหญ่ที่สุดของ Bitcoin มันใช้งานได้กับ Core Lightning การดำเนินการที่ดีที่สุดของ Lightning คู่แข่งอีกรายหนึ่ง Strike ตอนนี้ใช้งานแอพพลิเคชั่น Lightning ชำระเงินขนาดเล็กใน 200 ประเทศ Cloud Lightning  Facebook และ Bitcoin  ในท

ประเด็นสำคัญ ตัวเลข 47.5% รวมค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ 30% สำหรับการขายผ่าน Meta Quest Store ซึ่งขายแอปและเกมสำหรับชุดหูฟังเสมือนจริง ยิ่งไปกว่านั้น Horizon Worlds จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 17.5% ค่าธรรมเนียมของ Meta สำหรับการขายสินทรัพย์เสมือนบน Horizon Worlds นั้นมากกว่า 30% ที่ Apple เรียกเก็บจากนักพัฒนาใน App Store อย่างมาก เมื่อวันพฤหัสบดี Facebook ประกาศว่าจะเปิด Horizon World ซึ่งเป็นโลกเสมือนจริงแห่งอวตารสำหรับทุกคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา Meta บริษัทแม่ของ Facebook วางแผนที่จะลดราคา 47.5% จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มเสมือนจริง Horizon Worlds ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแผนของบริษัทในการสร้างสิ่งที่เรียกว่า “เมตาเวิร์ส (Metaverse)” ยักษ์ใหญ่แห่งโซเชียลมีเดียประกาศในบล็อกโพสต์เมื่อวันจันทร์ กำลังปล่อยให้ครีเอเตอร์ Horizon Worlds จำนวนหนึ่งขายทรัพย์สินเสมือนภายในโลกที่พวกเขาสร้าง ซึ่งอาจรวมถึง NFTs ในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้กล่าวถึงในโพสต์ว่า Meta จะเรียกเก็บเงินจากครีเอเตอร์ในการขายสินค้าของตนเป็นจำนวนเท่าใด โฆษกของ Meta ยืนยันกับ CNBC เมื่อวันพ

Meta Platforms Inc (เดิมชื่อ Facebook) เตรียมออกโทเคนเสมือน (virtual token) และคริปโตเคอร์เรนซีให้กับกลุ่มแอพโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้โทเคนเสมือนดังกล่าวเพื่อให้รางวัลแก่ครีเอเตอร์และให้สินเชื่อและบริการทางการเงินอื่น ๆ ตามที่ Financial Times รายงาน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวซึ่งรายงานว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นนั้นเกิดขึ้นเมื่อ Meta ให้ความสำคัญกับบริการที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ Metaverse ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ผู้คนโต้ตอบ ทำงาน และเล่น หากนำไปใช้งานก็จะทำให้ Meta มีช่องทางรายได้ใหม่และควบคุมธุรกรรมในชุดแอพและบริการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Facebook, Instagram, WhatApp และแพลตฟอร์มเสมือนจริงของ Meta Quest คริปโตเคอร์เรนซีของ Meta ที่เรียกภายในว่า “Zuck Bucks” มีไว้สำหรับ Metaverse และอาจไม่ได้ขึ้นอยู่บนบล็อกเชน FT รายงาน โดยอ้างแหล่งข่าวที่คุ้นเคยในเรื่องนี้ Meta สามารถออกโทเคนในแอพซึ่งถูกควบคุมโดยบริษัทจากส่วนกลาง รายงานเผย และโทเคนดังกล่าวสามารถใช้เพื่อจ่ายให้ผู้สร้างที่ชื่นชอบบน Instagram และให้รางวัลแก่ผู้ที่มีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในกลุ่ม Facebook “เราไม่มีข้อมูลอัพเดทที่จะแบ่งปั

Meta Platforms Inc. ของ Mark Zuckerberg เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักแห่งอนาคตของ Metaverse แต่ผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมรายหนึ่งไม่เชื่อในวิสัยทัศน์เป็นพิเศษ Reggie Fils-Aime อดีตประธานและซีโอโอของ Nintendo of America Inc. กล่าวว่าเช่นเดียวกับระบบคลาวด์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และแม้แต่อินเทอร์เน็ตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทุกธุรกิจต่างก็พยายามเข้าถึง Metaverse แทนที่จะเป็นบริษัทของ Facebook อนาคตดิจิทัลจะถูกขับเคลื่อนโดยบริษัทขนาดเล็กที่มีนวัตกรรมจริงๆ ในขณะที่บริษัทอย่าง Epic Games Inc. กำลังทำสิ่ง “น่าสนใจจริงๆ” เขากล่าว “Facebook เองไม่ใช่บริษัทที่มีนวัตกรรม” Fils-Aime บอกกับ Emily Chang ที่งาน South by Southwest ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เมื่อวันเสาร์ “พวกเขาได้มาซึ่งสิ่งที่น่าสนใจเช่น Oculus และ Instagram หรือพวกเขาเป็นผู้ตามความคิดของผู้คนอย่างรวดเร็ว ฉันไม่คิดว่าคำจำกัดความปัจจุบันของพวกเขาจะประสบความสำเร็จ” การเพิ่มขึ้นของบริษัทที่มีนวัตกรรมและขนาดเล็ก ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นหรือรอบการระดมทุนยังแสดงให้เห็นว่ามีการควบรวมกิจการมากขึ้นสำหรับอุตสาหกรรม Fils-Aime ชี้ไปที่การเข้

Follow us

Most read in category

Digital currency