Amazon

Amazon Web Services (AWS) เปิดตัวกองทุนมูลค่า $100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพที่เน้น generative AI โดยเฉพาะ Amazon ได้เคลื่อนไหวหลายอย่างในภาคส่วนคริปโตและบล็อกเชน ภาพ: Shutterstock การเปิดตัวที่ชัดเจนเพื่อยืนยันการดำรงอยู่ในภูมิทัศน์ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งขนาดใหญ่ของบริษัทค้าปลีก ได้เปิดตัวกองทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นไปที่ generative AI โครงการนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ AWS Generative AI Innovation Center ซึ่งออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงกับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักยุทธศาสตร์ วิศวกร และสถาปนิกโซลูชันในเครือ AWS กับลูกค้าและคู่ค้า ตามที่ Amazon เผย จุดมุ่งหมายคือ “เร่งนวัตกรรมขององค์กรและความสำเร็จด้วย generative AI” Generative AI ได้แก่เครื่องมือต่าง ๆ เช่น ChatGPT หรือ Midjourney เป็นส่วนย่อยของปัญญาประดิษฐ์ซึ่งแทนที่จะเรียนรู้ที่จะจัดประเภทข้อมูลหรือทำนายผลลัพธ์ แต่กลับสามารถสร้างเนื้อหาใหม่ได้ มันสร้างอะไรก็ได้ตั้งแต่ข้อความและรูปภาพไปจนถึงเพลงตามรูปแบบที

โพสต์บนเว็บไซต์สมัครงานของ Amazon ระบุว่ าบริษัทกำลังวางแผนที่จะใช้คุณสมบัติการค้นหา AI ขั้นสูงในร้านค้าออนไลน์บนเว็บ Amazon กำลังเตรียมพัฒนาและใช้งานฟังก์ชัน “ค้นหา” ใหม่ สำหรับร้านค้าออนไลน์บนเว็บสโตร์ที่มีอินเทอร์เฟซคล้ายกับ ChatGPT ประกาศรับสมัครงาน 2 รายการที่ Bloomberg ค้นพบครั้งแรกระบุถึงแผนงานของบริษัท ซึ่งระบุเป็นภาษาที่ชัดเจนว่า Amazon ตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ฟีเจอร์การค้นหาที่มีมาอย่างยาวนานขึ้นมาใหม่ ในลิสต์งานตำแหน่ง “Sr Technical Program Manager” บริษัทระบุว่า  เรากำลังดำเนินการริเริ่ม AI ใหม่ เพื่อวางโครงสร้างใหม่และคิดค้นวิธีการค้นหาใหม่โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงลึกรุ่นต่อไปที่มีขนาดใหญ่มาก การจ่ายเงินสำหรับตำแหน่งนี้นั้นต้องการประสบการณ์อย่างน้อยเจ็ดปีในการทำงานกับทีมวิศวกรโดยตรง อยู่ระหว่าง $119,000 ถึง $231,400 ต่อปี ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของผู้สมัคร ลิสต์ตำแหน่งงานที่สอง “Sr SDE, Machine Learning (ML), Amazon Search” จ่ายระหว่าง $134,500 ถึง $261,500 ต่อปี ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าความคิดริเริ่มนี้จะเป็น “การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับการค้นหา”

โชว์ดังกล่าวประกอบด้วยศิลปิน นักสะสม และผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมจากทั่วโลก ความสามารถในการยืนยันตัวตนแบบดิจิทัลเกือบทุกอย่าง และความเป็นไปได้ในการสร้างรายได้ในรูปแบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นี่คือวิธีการบางส่วนของ NFTMe ซีรีส์สารคดีเรื่องใหม่ของ Amazon เกี่ยวกับ NFT โชว์ประกอบด้วยศิลปิน นักสะสม และผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมทั่วโลกที่แบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขากับ NFT และการผสมผสานระหว่างศิลปะและเทคโนโลยีส่งผลดีต่อชีวิตประจำวันของพวกเขาอย่างไร NFTMe หกตอน ความยาว 30 นาที จะแนะนำผู้บุกเบิกพื้นที่ NFT 50 คน จากสี่ทวีป อาทิ นักร้องชาวอเมริกัน Susaye Greene จาก The Supremes; สมเด็จพระราชินี Diambi Kabatusuila แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก; Refik Anadol ศิลปินดิจิทัลของ SpaceX และ NASA; ปีเตอร์ ราเฟลสัน โปรดิวเซอร์เพลงของ Madonna; และ Cheryl Douglas จาก Portion ผู้เปิดตัวคอลเลกชัน NFT สำหรับ Black-Eyed Peas ตอนแรกจะสำรวจชุมชน NFT และการเดินทางของผู้คนที่แตกต่างกันผ่านวัฒนธรรมดิจิทัล โดยผู้มีอิทธิพลชั้นนำจะทำลาย NFT และเทคโนโลยีบล็อกเชน และราชินี Diambi ของคองโกอธิบายว่า ชนเผ่าของเธอมีความคิด

Amazon อาจเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่รายต่อไปที่จะเข้าสู่โลกเสมือนจริง เนื่องจากบริษัทกำลังจ้างงานด้าน “ผลิตภัณฑ์บ้านอัจฉริยะรูปแบบใหม่ของโลก” โดยใช้เทคโนโลยี “XR” ในบางรูปแบบ ตามที่โดย Protocol แวร์ด้านอุปกรณ์ XR/AR ต่าง ๆ” งานดังกล่าวรวมถึง “การคิดและพัฒนาซอฟต์แวร์และสถาปัตยกรรมหลักสำหรับผลิตภัณฑ์บ้านอัจฉริยะยุคใหม่” ตามที่สื่อรายงาน ยังไม่รายละเอียดเพิ่มเติมมากนัก หนึ่งในนั้นมี “วิศวกรซอฟต์มสายงานใหม่” ส่วนอีกตำแหน่งหนึ่งสำหรับ “ผู้จัดการอาวุโสโครงการเชิงเทคนิสด้านผลิตภัณภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่าง XR” และตำแหน่งอื่น ๆ ที่ต้องการคุณสมบัติดังต่อไปนี้ได้แก่ “ประสบการณ์สร้างผลิตภัณฑ์ด้านเทคนิคอย่างลึกซึ้ง เช่น AI/ML หุ่นยนต์ เกม”  Amazon อาจมีข้อได้เปรียบใน AR (และ VR หากตัดสินใจใช้เทคโนโลยีนั้น) เนื่องจากมีอุปกรณ์สมาร์ทโฮมหลายประเภท สามารถจินตนาการถึงสถานการณ์ที่แว่นตา Amazon AR/VR เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ทีเปิดใช้งาน Alexa เพื่อให้คุณเห็นภาพคร่าว ๆ ของทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านของคุณต่อหน้าต่อตา  เมื่อเร็ว ๆ นี้ Amazon ได้เปิดตัวหุ่นยนต์ของตนเรียกว่า As

Follow us

Most read in category

Digital currency