Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

AI

ปีนี้ AI ได้ช่วยผลักดันราคาของเหรียญมีม (memecoin) ให้มีมูลค่าตลาดสูงถึงพันล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2025 นวัตกรรมคริปโตที่ผสมผสานกับ AI ที่แท้จริงกำลังจะเกิดขึ้น หนึ่งในเทรนด์ที่สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นในปี 2024 คือการประสานกันระหว่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบนิเวศน์ของคริปโตเคอร์เรนซี ในอดีต การประสานกันนี้ส่วนใหญ่อยู่ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยส่งผลกระทบต่อเลเยอร์ต่างๆ ของสแตก (stack) เช่น การประมวลผลแบบกระจายศูนย์ การจัดเก็บข้อมูล และการฝึกอบรมและการอนุมานแบบจำลอง อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การข้ามขีดจำกัดระหว่างคริปโตกับ AI (crypto x AI) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลาง เมื่อเอเจนต์ (Agents) เริ่มปรากฏตัวและเพิ่มจำนวนเป็นหลายพันตัว แม้ว่าเรื่องราวของ AI agent จะครอบครองความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงไม่นานมานี้ แต่เรายังได้แตะเพียงผิวเผินของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2025 AI Agents คืออะไร? AI Agents คือโปรแกรมอิสระ (autonomous program) ที่ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติงานเฉพาะอย่าง อาจเป็นงานง่ายๆ เช่น แชร์มีมบน X ไปจนถึงธุรกรรมบนเชนที่ซับซ้อน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการซื้อขายหรือกลยุทธ์การท

Google ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า บริษัทกำลังขยายโหมดการวิจัยเชิงลึกล่าสุดของ Gemini ไปยังอีก 40 ภาษา บริษัทได้เปิดตัวโหมดการวิจัยเชิงลึก (in-depth research mode) เมื่อต้นเดือนนี้ โดยอนุญาตให้ผู้ใช้แผนสมัครสมาชิก Google One AI Premium สามารถปลดล็อกผู้ช่วยเสมือนจริงที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อช่วยในการวิจัยได้ โหมดการวิจัยเชิงลึกนี้ทำงานผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอน ตั้งแต่การสร้างแผนการวิจัย การค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จากนั้น เครื่องมือจะทำการค้นหาอีกครั้งเพื่อสกัดข้อมูลความรู้ จากนั้นทำซ้ำกระบวนการนี้หลายครั้ง จนในที่สุดก็จะสร้างรายงานออกมา ภาษาที่ Gemini รองรับ ได้แก่ อาหรับ, เบงกาลี, จีน, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, กุจราตี, ฮินดี, อินโดนีเซีย, อิตาลี, ญี่ปุ่น, กันนาดา, เกาหลี, มาลายาลัม, มราฐี, โปแลนด์, โปรตุเกส, สวาฮิลี, สเปน, ทมิฬ, เตลูกู, ทานี, ยูเครน และ อูรดู ความท้าทายของ Google คือการค้นหาแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในภาษาใดภาษาหนึ่ง จากนั้นสรุปข้อมูลในภาษาต้นฉบับโดยไม่ผิดไวยากรณ์ ในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในการสนทนากับ TechCrunch นั้น HyunJeong Choe ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมข

Adam Mosseri (แอดัม โมเสอรี) หัวหน้า Instagram ได้โชว์ฟีเจอร์ใหม่ของ AI ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขวิดีโอได้เพียงแค่ใช้ข้อความเพื่อเปลี่ยนภาพในวิดีโอ รูปภาพ: Adam Mosseri via Instagram Meta กำลังนำเทคนิค AI วิดีโอมาสู่ Instagram ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งวิดีโอได้เพียงแค่ใช้ข้อความเพื่อปรับเปลี่ยนภาพ ตั้งแต่การเพิ่มประกายระยิบระยับไปจนถึงการเปลี่ยนพื้นหลัง และทำได้เกือบทุกอย่างที่คุณสามารถจินตนาการได้ “ฉันตื่นเต้นมากกับ Movie Gen ซึ่งเป็นโมเดลวิจัย AI ขั้นต้นของเราที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงเกือบทุกแง่มุมของวิดีโอของคุณได้ด้วยคำสั่งข้อความ (text prompt) ง่ายๆ” Adam Mosseri หัวหน้า Instagram กล่าวในประกาศผ่านวิดีโอ ในวิดีโอ Mosseri ปรากฏตัวในชุดเดิมและสถานที่เดิม แจ็คเก็ตสีเทาและห้องนอนธรรมดา และฉากสุ่มเริ่มเปลี่ยนไป โชว์ให้เห็นเขาอยู่ในปารีส นิวยอร์ก และสระว่ายน้ำ พร้อมทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นอย่างอื่น เช่น แจ็คเก็ตหนังหรือเสื้อกันหนาวหนาเมื่ออยู่ในเทือกเขาหิมาลัย “คุณควรจะสามารถเปลี่ยนชุดของคุณ หรือเปลี่ยนบริบทที่คุณกำลังนั่งอยู่ หรือเพิ่มโซ่ ไม่ว่าอะไรก็ตาม

เอกสารนโยบายของ OECD เน้นย้ำถึงศักยภาพของ AI ในการปรับเปลี่ยนเรื่องการท่องเที่ยวของกลุ่ม G7 โดยเพิ่มความยั่งยืนและประสบการณ์ของนักเดินทาง พร้อมทั้งจัดการกับความเสี่ยง องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Developmen, OECD) ระบุว่า การท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศ G7 มีศักยภาพที่จะได้รับประโยชน์จากการนำเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) มาใช้ แต่โอกาสเหล่านี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงบางประการ เอกสารนโยบายของ OECD เรื่อง “ปัญญาประดิษฐ์และการท่องเที่ยว (Artificial Intelligence and tourism)” ซึ่งออกเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ได้ตรวจสอบความเกี่ยวข้องที่เพิ่มขึ้นของ AI ในการสนับสนุนนวัตกรรมและความยั่งยืนของการท่องเที่ยว ประเทศกลุ่ม G7 ประกอบด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา การวิเคราะห์การประยุกต์ใช้ AI ในการท่องเที่ยวของ OECD พบประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นหลายประการ รวมถึงประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวที่ดีขึ้น การเข้าถึงและการมีส่วนร่วมของผู้ชมที่ดียิ่งขึ้น และการใช้เครื่องจักรหรือระบบคอมพิว

ตามที่ Ilya Sutskever ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI กล่าว นักวิจัยด้าน AI ต้องค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการปรับขนาดของปัญญาประดิษฐ์เพื่อเอาชนะข้อจำกัด Ilya Sutskever ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ได้กล่าวปาฐกถาในงานประชุม Neural Information Processing Systems (NeurIPS) 2024 ที่จัดขึ้น ณ แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยระบุว่า ยุคของการฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์แบบเดิมกำลังสิ้นสุดลง และทำนายถึงการเกิดขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ระดับซูเปอร์อินเทลลิเจนซ์ (AI superintelligence) ตามที่ Sutskever กล่าว การเพิ่มพลังการประมวลผลผ่านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง (machine-learning algorithms) ที่ดีขึ้นนั้นเหนือกว่าปริมาณข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่สำหรับการฝึกอบรมโมเดล AI นักวิจัย AI เปรียบเทียบข้อมูลกับเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งในที่สุดก็จะหมดลง Sutskever กล่าวอีกว่า ข้อมูลไม่ได้เติบโตเพราะเรามีเพียงอินเทอร์เน็ตเดียว คุณอาจพูดได้ว่าข้อมูลคือเชื้อเพลิงฟอสซิลของ AI มันถูกสร้างขึ้นมาอย่างไรก็ตาม และตอนนี้เรากำลังใช้มัน และเรากำลังเข้าสู่จุดสูงสุดของข้อมูล และจะไม่มีเพิ่มอีกแล้ว เราต้องจัดการกับข้อมูลที่มีอยู่ ผู้ร่วมก่อตั้ง Op

Bitwise คาดการณ์ว่าในปี 2025 Bitcoin อาจแตะระดับ $500,000 Coinbase จะเข้าสู่ดัชนี S&P 500 และเอเจนต์ AI จะขับเคลื่อนปรากฎการณ์ “memecoin mania” ครั้งต่อไป Bitwise บริษัทด้าน Crypto exchange-traded fund (ETF) หรือ กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโต คาดการณ์ว่าจะมี “ยูนิคอร์นคริปโต” อย่างน้อย 5 รายจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2025 รวมถึง Circle ผู้ให้บริการเหรียญ Stablecoin และ Kraken ผู้ให้บริการตลาดซื้อขายคริปโต นอกจากนี้ ในรายงาน “10 Crypto Predictions for 2025” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม Matt Hougan หัวหน้าฝ่ายการลงทุน และ Ryan Rasmussen หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Bitwise ยังคาดการณ์ว่าอีก 3 บริษัท ได้แก่ Anchorage Digital “ธนาคารคริปโต”, Chainalysis บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล และ Figure บริษัทตลาดซื้อขายคริปโต จะเปิดตัว IPO (Initial Public Offering) ในปีหน้า เพื่อระดมทุนจากการขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ปัจจัยหลักที่ทำให้ Bitwise มองว่าปี 2025 คือ “ปีแห่ง Crypto IPO” ได้แก่ ความต้องการของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น การยอมรั

โครงการคริปโตประเภท AI และ Big Data ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มสูงขึ้นจากการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของ Bitcoin โทเคนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ บิ๊กดาต้า (Big Data) พุ่งทะยาน 131.4% นับตั้งแต่แตะจุดต่ำสุดของปีที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน โดยอาศัยแรงหนุนจากการวิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของ Bitcoin เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน มูลค่าตลาดรวมของโครงการและโทเคนคริปโตด้าน AI และ Big Data เพิ่มขึ้นเป็น 42.1 พันล้านดอลลาร์ โดยมี Near Protocol (NEAR), Internet Computer (ICP) และ Render (RENDER) เป็นผู้นำ (ข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ CoinMarketCap) มูลค่าตลาดและปริมาณการซื้อขายของโทเคน AI และ Big Data ใน 30 วันที่ผ่านมา ที่มา: CoinMarketCap ราคาโทเคน AI ที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ สามารถอธิบายได้จากความเชื่อมั่นโดยรวมของนักลงทุนที่เป็นไปในทางบวก ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นใน Bitcoin (BTC) ความชัดเจนด้านกฎระเบียบในหลายเขตอำนาจศาล และไม่มีการล่มสลายครั้งใหญ่ของระบบนิเวศ โทเคน AI ฟื้นตัวจากการสูญเสียมูลค่าตลาด ตรงกันข้ามกับแนวโ

ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Meta มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 4 ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 201 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่เฟซบุ๊ก (Facebook) เปลี่ยนชื่อเป็น เมตา (Meta) ในเดือนตุลาคม ปี 2021 และการขยายธุรกิจไปสู่ฮาร์ดแวร์สำหรับเมตาเวิร์สและปัญญาประดิษฐ์ ปัจจุบัน หุ้น Meta กำลังซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณ 567 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหุ้น ณ ปัจุจุบัน เพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่า จากระดับต่ำสุดในเดือนพฤศจิกายน 2022 ที่ประมาณ 88 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น หลังจากเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta ได้หนึ่งปี ราคาหุ้นของ Meta ตกลงอย่างรุนแรงจากช่วง 300 ดอลลาร์สหรัฐ ไปถึงจุดต่ำสุดในเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของบริษัทไปสู่ประสบการณ์ความเป็นจริงเสริม (augmented reality,AR) และการมุ่งเน้นการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในขณะนั้น ที่มา : TradingView ตั้งแต่นั้นมา บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุด 10 อันดับแรกของโลก ครึ่งหนึ่ง ซึ่งรวมถึง Apple

ศูนย์หนึ่งจะมีหน้าที่พัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างรับผิดชอบ ในขณะที่อีกศูนย์หนึ่งจะสนับสนุนโครงการที่ตอบโจทย์ “เป้าหมายสำคัญของสังคม” Microsoft กำลังขยายธุรกิจด้านปัญญาประดิษฐ์ไปทั่วโลก และได้ตัดสินใจตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์สองแห่งในอาบูดาบี เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 16 เมษายน Microsoft ได้ประกาศความร่วมมือกับ G42 ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย Microsoft ได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลเพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น และทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้มากขึ้น เมื่อวันที่ 17 กันยายน บริษัทได้ประกาศแผนการที่จะสร้างศูนย์วิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ใหม่ 2 แห่งที่อาบูดาบี เพื่อเป็นการเดินหน้าแผนงานและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้า การสร้างมาตรฐานร่วมกันในระดับอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดแนวทางในการใช้งาน AI บริษัทเทคโนโลยีนี้ได้ประกาศว่าจะร่วมมือกับบริษัท G42 ในการก่อตั้งศูนย์ AI แห่งแรกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โครงการนี้ได้ร

จากข้อมูลของ World Economic Forum อุตสาหกรรมยานยนต์ พลังงาน ซอฟต์แวร์ อวกาศ และการป้องกันประเทศ กำลังเป็นผู้นำในการลงทุนในเมตาเวิร์ส บริษัทผลิตจำนวนมากในสหรัฐฯ กำลังหันเหความสนใจไปที่เมตาเวิร์สอุตสาหกรรม (industrial metaverse) เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนในวงจรการผลิต ตามที่ ตามที่ World Economic Forum (WEF) รายงาน รายงานที่เผยแพร่โดย WEF เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ระบุว่า 92% ของผู้บริหารฝ่ายการผลิตในสหรัฐฯ กำลังสำรวจวิธีต่าง ๆ ในการนำเมตาเวิร์สมาใช้ในบริษัทของตนแล้ว งานวิจัยนี้ อ้างอิงผลสำรวจที่รวบรวมจากบริษัทขนาดใหญ่ 100 แห่ง ครอบคลุม 10 อุตสาหกรรม พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้บริหารแต่ละคนกำลังตรวจสอบกรณีการใช้งานที่แตกต่างกันมากถึงหกกรณี WEF เน้นย้ำว่า ปัจจัยหนึ่งที่ขับเคลื่อนความสนใจคือ ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่จะ “ยกระดับความทะเยอทะยาน” เพื่อตอบสนองต่อผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในช่วงที่กำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แนวโน้มด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจมหภาค สังคม และลูกค้าองค์กรธุรกิจ (B2B) กำลังเร่งตัวและมาบรรจบกัน สร้างความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ เพื่อการเติบ

Tim Berners-Lee ไม่ได้พูดถึงคริปโตหรือบล็อกเชน แต่ดูเหมือนจะมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส (Metaverse) Tim Berners-Lee ผู้คิดค้นเว็บไซต์ world wide web ได้ทำนายเกี่ยวกับอนาคตของอินเตอร์เน็ตเนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี เขาคาดการณ์ว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ความจริงเสมือน (VR) และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยี จะเป็นสิ่งกำหนดทิศทางของอินเตอร์เน็ตในอนาคต จากการพูดคุยกับ CNBC Berners-Lee กล่าวว่า ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่น่าเชื่อถือจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับวิธีการโต้ตอบ “สิ่งที่ฉันคาดการณ์ไว้ อย่างหนึ่งคือคุณจะมีผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่คุณไว้ใจได้ และทำงานเพื่อคุณ เหมือนหมอ” คำทำนายที่สองของเขาคือ มนุษย์จะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของข้อมูลของตนเอง ความจริงเสมือน (VR) และการประมวลผลเชิงพื้นที่ (spatial computing) (นั่นก็คือการดื่มด่ำอยู่ในโลกเสมือนจริง) จะกลายเป็นรูปแบบหลักในการใช้งานคอมพิวเตอร์ คุณสามารถใช้งานชุดแว่น VR เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ได้ หลังจากนั้น เมื่อถอดแว่น VR ออก คุณก็สามารถทำกิจกรรมนั้นต่อบนหน้าจอขนาดใหญ่ได้ นอกจากนี้ ไม่ว่าคุณจะเคลื่อนไหวอย่างไร คุณสามารถหยิบโท

Nvidia แซง Tesla ของ Elon Musk ขึ้นแท่นเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายมากที่สุดใน Wall Street ของสหรัฐอเมริกา ในช่วง 30 วันทำการที่ผ่านมา Nvidia บริษัทผลิต GPU รายใหญ่ ประกาศว่ารายได้ของพวกเขาเพิ่มขึ้น 265% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากความต้องการใช้อุปกรณ์ AI ที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก จากผลประกอบการไตรมาส 4 ล่าสุด Nvidia มีรายได้ $22.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาส 3 และ 265% จากปีที่แล้ว Jensen Huang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Nvidia อธิบายว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากความต้องการคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงและปัญญาประดิษฐ์แบบเจเนอเรทีฟ (generative AI) ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก สรุปผลประกอบการไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2024 ของ Nvidia เติบโต 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เติบโต 265% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่มา: investor.nvidia.com ผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมของ Nvidia นี้ เกิดขึ้นพร้อมกับการที่บริษัทแซงหน้า Tesla ของ Elon Musk ขึ้นแท่นเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายมากที่สุดบน Wall Street ในช่วง 30 วันทำการที่ผ่านมา มีการซื้อขายหุ้น Nvidia มูลค่าประมาณ $30 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉลี่ยแล้ว Tesla มีการซื้อขาย

ในช่วง 17 วันที่ผ่านมา มูลค่าของสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซีที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) พุ่งสูงขึ้น โดยมีมูลค่าตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง $10.21 พันล้านดอลลาร์ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้อาจเกี่ยวข้องกับการเปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดของ OpenAI ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน AI ที่สามารถแปลงข้อความเป็นวิดีโอ (text into video) ได้ ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีด้าน AI พุ่ง 142% หลังการเปิดตัว Sora ของ OpenAI เดือนนี้ ตลาดคริปโตที่เน้นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจาก OpenAI เปิดตัว Sora ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการแปลงข้อความเป็นวิดีโอ ถึงแม้ว่า Sora ยังไม่เปิดให้ใช้งานกับสาธารณชน แต่ได้มีการเผยแพร่ตัวอย่างวิดีโอที่สร้างขึ้นอย่างน่าประทับใจ โดยวิดีโอเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งส่งผลให้ตลาดคริปโตที่เกี่ยวข้องกับ AI เกิดการตื่นตัวและส่งผลต่อการเติบโต ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2024 เป็นต้นมา มูลค่าของภาคคริปโตเคอร์เรนซีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจถึง 142.79% ตลอดช่วงเวลานี้ ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี AI

แว่นตาอัจฉริยะของ Meta จะไม่ถูกเรียกว่า “Stories” อีกต่อไป ตอนนี้พวกเขาเรียกว่าแว่นตาอัจฉริยะ (smart glasses) แล้ว ในทางเทคนิคแล้ว Meta รุ่นใหม่ที่เพิ่งประกาศเรียกว่า Ray-Ban Meta Smart Glasses และบริษัทจะยินดีแก้ไขให้คุณทุกครั้งที่คุณเรียกอย่างอื่น แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแว่นตาอัจฉริยะ ไม่มีชื่อแปลก ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แว่นตาใหม่ที่ Meta เพิ่งประกาศเปิดตัวมาให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว และจะวางจำหน่ายในวันที่ 17 ตุลาคม  สนนที่ราคา 299 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีวัตถุประสงค์หลักสองประการด้วยกัน สิ่งแรกคือการเปลี่ยนหูฟังของคุณ: แว่นตาอัจฉริยะมีระบบเสียงส่วนบุคคลที่คล้ายกัน เช่น Echo Frames ของ Amazon และซีรีส์ Bose Tempo ทั้งหมดนี้ใช้เล่นเพลง แต่พยายามทำให้แน่ใจว่าคุณเท่านั้นที่ได้ยิน ด้วยแว่นตารุ่นใหม่ Meta ยังอัปเกรดระบบไมโครโฟนครั้งใหญ่ ข้อมูลจำเพาะมีไมโครโฟนห้าตัว รวมถึงไมโครโฟนตัวหนึ่งที่สะพานจมูก ซึ่งจะทำให้ทั้งการโทรและคำสั่งเสียงของคุณชัดเจนยิ่งขึ้น  งานอีกอย่างของแว่นตาก็คือกล้อง แว่นตาอัจฉริยะมีเลนส์กล้องขนาดเล็กอยู่ที่ขมับด้านขวา แต่กล้องเหล่านี้ถ่ายภาพ 12 ล้านพิกเซลและวิดีโอ

โทเคนคริปโตที่เกี่ยวข้องกับ AI (Artificial intelligence) ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 3% ในวันพุธ หลังจาก Elon Musk ซีอีโอ Tesla และ SpaceX ประกาศเปิดตัวบริษัทด้าน AI ใหม่ ชื่อ xAI เป็นตัวเลือกแข่งกับแชทบอทยอดนิยมอย่าง ChatGPT โทเคนอย่างเช่น SingularityNET (AGIX) ราคาพุ่งขึ้นมากกว่า 6% ขณะที่ Fetch.ai (FET) เพิ่มขึ้นประมาณ 3% หลังจากประกาศบริษัทใหม่ออกมามีเป้าหมายเพื่อ “เข้าใจความจริงแท้ของจักรวาล” ทีมงานนำโดย Musk และสมาชิกทีมที่เคยทำงานที่ DeepMind, OpenAI, Google Research, Microsoft Research, Tesla และมหาวิทยาลัยโตรอนโต้มาก่อน (ตามที่ระบุไว้ในเว็บไซต์บริษัท) บริษัทใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่นี้ จะแยกออกจากบริษัท X Corp ของ Musk และ xAI แถลงว่าจะมีการทำงานร่วมกันกับบริษัทอื่น ๆ ของเขาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ xAI จะให้บริการ  Twitter Spaces chat ในวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม นี้ แหล่งข่าว -> coindesk.com

สรุป เสียงรบกวนส่วนใหญ่รอบตลาด NFT เมื่อเร็ว ๆ นี้ถูกครอบงำด้วยหัวข้อข่าวและข้อมูลที่วาดภาพอันเลวร้ายของภาคส่วนนี้ แต่ Solana Labs กล่าวว่า ยังมีผู้สนใจเข้าร่วมการต่อสู้และกำลังทำงานกับเครื่องมือ AI ใหม่เพื่อช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามไปได้ “หนึ่งในความท้าทายในตอนนี้ … [ผู้ซื้อ] จำเป็นต้องค้นหาจุดข้อมูลต่างๆ มากมาย” Tal Tchwella หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Solana Labs กล่าวกับ The Block ในขณะที่กำลังพิจารณาว่าการเข้าสู่ตลาดตั้งแต่เริ่มต้นนั้นยากเพียงใด ท่ามกลางความพยายามที่จะเลือกคอลเลกชันเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบได้ง่ายขึ้น Solana Labs กำลังทำงานกับ AI ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ระบุและซื้อโทเคน NFT ที่เหมาะกับความต้องการและความจำเป็นของพวกเขามากที่สุด “บางส่วนก็เกินจริงอย่างที่เราเคยเห็นในคอลเลกชั่น NFT บางคอลเลกชั่น” Tchwella กล่าวเสริม “แต่บางส่วนก็เกี่ยวข้องเชื่อมโยงอย่างแท้จริงที่ผู้คนสร้างขึ้นผ่านสิ่งนี้ และนี่คือจุดที่ AI สามารถเข้ามาและทำสิ่งนั้นได้ ข้อมูลสามารถเข้าถึงได้สำหรับบรรทัดฐานสำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาใน [web3] เพื่อค้นหาสิ่งที่พวกเขาสนใจ” ค้นหาชุมชน NFT ที่ดีที่สุด Tchwella กล่าวว่า Solana อา

ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเห็น AI ทะยานขึ้น และยิ่งกว่านั้นทำนองเดียวกันกับ Bitcoin อดีต CEO ของ BitMEX กล่าว Bitcoin (BTC) จะเป็นสกุลเงินของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และราคาต่อเหรียญอาจแตะ $760,000 ดอลลาร์สหรัฐในกระบวนการนี้ Arthur Hayes กล่าว ในบทความล่าสุดของเขาที่ชื่อว่า “Massa” อดีต CEO ของ BitMEX สรุปว่าการปฏิวัติของ AI จะมุ่งไปที่ BTC โดยธรรมชาติ Hayes: Bitcoin เป็น “ตัวเลือกสกุลเงินที่มีเหตุผลสำหรับ AI” ทั้งนี้ ระบบเงินตราถูกกำหนดให้กลายเป็นระบบที่ผิดปกติมากขึ้นในอนาคต Hayes กล่าวว่า มีภาคส่วนเศรษฐกิจหนึ่งที่กำลังเติบโตมีจุดแข็งแล้วแข็งอีก นั่นคือ AI ขณะที่ยังเพิ่งเกิดขึ้นในปี 2023 ทศวรรษต่อๆ ไปจะได้เห็นการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับ AI อย่างมากมาย จะทำให้แพร่หลายและหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ความก้าวหน้าล่าสุดในด้านพลังการประมวลผลได้พาเราไปสู่จุดสูงสุดของไม้ฮอกกี้ AI จะกลายเป็นไวรัลและเปลี่ยนเส้นทางของมนุษยชาติในชั่วข้ามคืน” เขาระบุ “ในเวลาเพียงสองเดือน ChatGPT เข้าถึงผู้คนที่ใช้งานอยู่ 100 ล้านคนต่อเดือน ทำให้เป็นเทคโนโลยีที่นำมาใช้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ดังนั้นลองจินตนาการดูว่าทุกอย่

OpenAI กำลังจัดตั้งทีมใหม่ นำโดย Ilya Sutskever หัวหน้านักวิทยาศาสตร์และหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัท เพื่อพัฒนาวิธีการควบคุมและควบคุมระบบ AI ที่ “ฉลาดล้ำ (superintelligent)” เหนือมนุษย์ จากบล็อกโพสต์เผยแพร่ล่าสุด Sutskever และ Jan Leike หัวหน้าทีมวางแผนที่ OpenAI ทำนายว่า AI ที่มีความฉลาดเหนือมนุษย์จะมาถึงภายในทศวรรษนี้ AI นี้ สมมติว่ามันมาถึงในที่สุด ไม่จำเป็นต้องเมตตา จำเป็นต้องมีการวิจัยเพื่อหาวิธีควบคุมและจำกัดมัน Sutskever และ Leike กล่าว “ปัจจุบัน เรายังไม่มีวิธีแก้ปัญหาในการบังคับหรือควบคุม AI ที่ฉลาดล้ำ และป้องกันไม่ให้มันทำงานผิดปกติ” พวกเขาระบุ “เทคนิคปัจจุบันของเราในการจัดแนว AI เช่น การเรียนรู้การเสริมแรงจากความคิดเห็นของมนุษย์ อาศัยความสามารถของมนุษย์ในการควบคุม AI แต่มนุษย์จะไม่สามารถควบคุมระบบ AI อย่างน่าเชื่อถือได้อย่างชาญฉลาดกว่าเรา” การก้าวไปข้างหน้าในด้าน “การจัดแนวฉลาดล้ำ (superintelligence alignment)” นั้น OpenAI กำลังสร้างทีม Superalignment ใหม่ นำโดยทั้ง Sutskever และ Leike ซึ่งจะสามารถเข้าถึง 20% ของการประมวลผลที่บริษัทได้รับจนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศ

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเผยแพร่คู่มือเกี่ยวกับจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ผ่านสำนักวาติกัน ท่านสรุปชุดหลักการที่บริษัทเทคโนโลยี เช่น OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ควรปฏิบัติตามในขณะที่พวกเขาพัฒนาและปรับใช้โปรแกรม AI คู่มือนี้มีชื่อว่า “Ethics in the Age of Disruptive Technologies: An Operational Roadmap” พัฒนาขึ้นโดย Institute for Technology, Ethics, and Culture (ITEC) สถาบันแห่งใหม่ของสำนักวาติกัน โดยทำงานร่วมกับ Markkula Center for Applied Ethics แห่งมหาวิทยาลัยซานตาคลารา (Santa Clara University) แนวทางระบุว่าควรใช้ AI เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของมนุษยชาติและสิ่งแวดล้อม พวกเขายังเรียกร้องให้ระบบปัญญาประดิษฐ์มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปลอดภัย เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงหายนะ (apocalypse) ที่ขับเคลื่อนโดย AI แนวทางกรอบพัฒนา AI แม้จะมีภูมิหลังที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน แต่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสและเพื่อนร่วมงานก็มีคุณสมบัติพิเศษในการเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ AI คุณพ่อเบรนแดน แมคไกวร์ (Brendan McGuire) ศิษยาภิบาลของ St. Simon Parish ในแคลิฟอร์เนีย เชื่อว่าความคิดริเริ่มของวาติกันสอดคล้องกับผลประโยชน์ที่ม

ซีอีโอของ Google DeepMind กล่าวว่า นักพัฒนาซอฟต์แวร์กำลังสร้างเทคโนโลยีจากรุ่น AlphaGo ปี 2016 ทำให้ Gemini มีความสามารถเหนือกว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่ในปัจจุบัน ซีอีโอ DeepMind บริษัทย่อยด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ Google กล่าวว่า ระบบ AI ที่กำลังจะมาถึงของบริษัทนั้น จะ “มีความสามารถเหนือกว่า” ChatGPT ของ OpenAI  ตามที่ Wired รายงานนั้น Demis Hassabis ซีอีโอของ DeepMind กล่าวว่า Gemini AI ของบริษัทเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (large language model, LLM) ที่ใช้ข้อความคล้ายกับกระบวนการของ ChatGPT แต่จะมาพร้อมกับความสามารถใหม่ เช่น การวางแผน (planning) หรือการแก้ปัญหา (problem-solving) ระบบจะใช้เทคโนโลยีและเทคนิคที่ใช้ใน AlphaGo ระบบ AI รุ่นแรกที่พัฒนาโดย DeepMind ในปี 2016  ในระดับสูง คุณสามารถนึกถึง Gemini ผนวกรวมจุดแข็งบางอย่างของระบบอย่าง AlphaGo เข้ากับความสามารถด้านภาษาที่น่าทึ่งของโมเดลขนาดใหญ่ เขาบอกด้วยว่าจะมี “นวัตกรรมใหม่” ถือว่า “น่าสนใจทีเดียว” Gemini เปิดตัวครั้งแรกในงานประชุม I/O Developer Conference ของ Google ในเดือนพฤษภาคม พร้อมกับผลิตภัณฑ์ AI อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง Hassabis

Follow us

Most read in category

Digital currency