แผนพัฒนาเมตาเวิร์สกำหนดให้เทศบางเมืองต่าง ๆ ติดตามเทรนด์เทคโนโลยี NFT และบูรณาการเมตาเวิร์สเข้ากับการศึกษาและการท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม รัฐบาลเมืองปักกิ่งได้ประกาศแผนนวัตกรรมและการพัฒนาเมตาเวิร์สระยะเวลา 2 ปี (2022-2024) กำหนดให้ทุกเขตต้องปฏิบัติตามแผนนวัตกรรม Web3 ดังกล่าวที่ออกมาใหม่
แผนปฎิบัติการพัฒนาอ้างถึงเมตาเวิร์สเป็นการบูรณาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของอินเทอร์เน็ตไปสู่ Web3 แผนนวัตกรรมดังกล่าวมุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวของกับเมตาเวิร์สและช่วยให้ปักกิ่งสร้างเมืองที่ได้มาตรฐานเศรษฐกิจดิจิทัล
แผนปฏิบัติการดังกล่าวเรียกร้องให้เขตต่าง ๆ สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีในระดับเมือง และส่งเสริมการใช้งานในด้านต่าง ๆ รวมถึงการศึกษาและการท่องเที่ยวด้วย โครงการพัฒนาจะได้เห็นการบูรณาการทางเทคนิค อาทิ การสร้างภาพ 3 มิติ และ GIS (สารสนเทศภูมิศาสตร์) เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลในอวกาศในเมืองที่มองเห็นได้ รวมถึงพัฒนเลเอาต์โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะแบบเก่าอย่างเหมาะสม
“ส่งเสริมสถานการณ์ทางการศึกษาดิจิทัล สนับสนุนความร่วมมือเชิงลึกระหว่างบริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเมตาเวิร์สและสถาบันการศึกษา ขยายรูปแบบการศึกษาออนไลน์ที่ชาญฉลาดและโต้ตอบกันได้ และพัฒนาแพลตฟอร์มการสอนดิจิทัลทั่วทั้งวงการ”
แผนปฏิบัติการการพัฒนาเมตาเวิร์สยังสั่งให้เขตและเทศบาลให้สนับสนุนทางการเงินและทรัพยากรมนุษย์เพื่อสร้างความเป็นจริงเสมือน รัฐบาลเมืองปักกิ่งยังเรียกร้องให้ติดตามเทรนด์เทคโนโลยีโทเคน NFTและสำรวจโครงการแซนด์บ็อกด้านกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนนวัตกรรมอีกด้วย
แม้ว่าจีนจะดังเรื่องท่าทีต่อต้านคริปโต แต่รัฐบาลให้ความสนใจต่อแนวคิดเมตาเวิร์สตั้งแต่ต้นปี 2021 ก่อนหน้าปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ยังรวมเมตาเวิร์สไว้ในแผนพัฒนาห้าปีอีกด้วย ทั้งนี้ ความสนใจของรัฐบาลในเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่นั้น ไม่ได้ส่งผลให้มีกฎระเบียบที่เอื้ออำนวยต่อบริษัทเทคโนโลยีที่สำรวจแนวคิดเดียวกัน
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เมืองใหญ่สองแห่งในประเทศจีนได้ประกาศแผนปฏิบัติการหลายปีโดยมุ่งเน้นที่เมตาเวิร์สและ NFT ความสนใจที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลจีนที่มีต่อเทคโนโลยีชั้นนำของ Web3 อาจนำไปสู่การยอมรับในวงกว้างในประเทศ คล้ายกับเรื่องสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ที่มีคนนับล้านใช้งานในช่วงนำร่อง นั่นเอง
แหล่งข่าว -> cointelegraph.com