แม้จะมีการสูญเสีย แต่ธุรกิจอื่นๆ ของบริษัท ผลักดันให้ทำกำไร ในไตรมาส 4 ของปี 2023 คาดว่า จะมีกำไรต่อเนื่อง ไปจนถึงไตรมาส 1 ของปี 2024
เมื่อเดือนกันยายน 2021 Facebook เปลี่ยนชื่อเป็น Meta การเปลี่ยนชื่อนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างยิ่งของ Mark Zuckerberg ในด้านเมตาเวิร์ส (Metaverse) ซึ่งเป็นโลกเสมือนจริง หลังจากนั้น 3 ปี เราสามารถดูได้ว่า Meta มีความมุ่งมั่นทางการเงินต่อแนวทางใหม่นี้อย่างไร รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 24 เมษายน จะช่วยให้เห็นภาพผลกระทบทางการเงินจากการขยายตัวของ Meta ไปสู่โลกเสมือนจริง (VR) และโลกความเป็นจริงเสริม (AR)
Meta มีรายได้ปี 2023 อยู่ที่ 134.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2022 รายได้ไตรมาส 4 อยู่ที่ 40.1 พันล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเหนือการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ สัญญาณบ่งชี้ว่าการมุ่งเน้นไปที่เมตาเวิร์สเริ่มประสบผลสำเร็จ ยังมีสัญญาณที่คลุมเครือก่อนการรายงานผลครั้งต่อไป
เมตาเวิร์สขาดทุนสะสม
แม้ว่า Facebook แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ Reality Labs ฝ่ายวิจัยของ Meta ที่รับผิดชอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ชุดหูฟัง Quest VR กลับเผชิญกับการขาดทุนจากการดำเนินงานติดต่อกันเป็นปีต่อปี รวมเป็นเงินประมาณ 40 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2021
รายได้ของบริษัทมาจากแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียและการส่งข้อความ Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp เป็นหลัก
Meta Quest มียอดขาย 20 ล้านชุด นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2019 ถึงมีนาคม 2023 ขณะที่ Apple iPhone: มียอดขาย 151 ล้านเครื่อง ในปี 2023 Sony PlayStation 5 มียอดขาย 50 ล้านเครื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2020 ถึงธันวาคม 2023
หุ้น Meta พุ่ง
ตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับ Reality Labs ของ Meta นั้นดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนและผู้ถือหุ้น ตามที่ The Motley Fool ระบุไว้ เมื่อเร็วๆนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันที่ทุ่มเทเงินลงทุนใน Reality Labs สำหรับการวิจัยและพัฒนาเมตาเวิร์ส บริษัทก็เร่งซื้อหุ้นของตัวเองกลับมาเช่นกัน
บริษัทได้ดำเนินการซื้อคืนหุ้นของตนเองมูลค่ารวม 92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2021 ปัจจุบันยังมีเงินทุนสำรอง 31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการซื้อหุ้นเพิ่มเติม และมีแผนจะซื้อคืนหุ้นอีก 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์
แหล่งข่าว -> cointelegraph.com