แม้จะมีพาดหัวข่าวล่าสุดว่า “metaverse-hype” กำลังร่อแร่ แต่งานวิจัยใหม่ที่เผยแพร่ในวันนี้โดย Bain & Company แสดงให้เห็นว่าเมตาเวิร์สนั้นมูลค่าอาจสูงถึง $900,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 แม้ว่าจะยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นอย่างน้อยอีก 5-10 ปี 

รายงานของ Bain หัวข้อ Taking the Hyperbole Out of the Metaverse สรุปว่า เมตาเวิร์ส (Metaverse) ก่อให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจที่แท้จริงและกำลังเติบโตสำหรับธุรกิจ บริษัทที่มีส่วนร่วมในระยะเริ่มต้นของการพัฒนาเมตาเวิร์สหรือที่เรียกว่า “ระยะเริ่มต้น (seed stage)” ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผู้ชนะในตลาด

“ในขณะที่เมตาเวิร์สพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เราได้เห็นเทคโนโลยีประเภทนี้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ แล้ว” Chris Johnson พันธมิตรในการปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีของ Bain กล่าว “ตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้คือ แพลตฟอร์มเกมที่สมจริงซึ่งมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่หลายร้อยล้านคนต่อเดือน และในขณะที่ยังไม่ชัดเจนในทันทีว่าภูมิทัศน์ของเมตาเวิร์สจะเปลี่ยนไปอย่างไร การวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่ามีสมรภูมิการแข่งขันห้าด้านที่ผู้บริหารควรพิจารณาหากพวกเขาต้องการก้าวไปข้างหน้าและขยายสเกลในที่สุด นี่คือการเดินทางอย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและทำงานร่วมกันมากขึ้น โดยได้รับการปรับปรุงอย่างรวดเร็วในเทคโนโลยีพื้นฐาน”

เมตาเวิร์สจะหลากหลายและทำงานร่วมกัน

เนื่องจากแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภคและองค์กรมีความสมจริงและทำงานร่วมกันมากขึ้น รายงานของ Bain พบว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่เมตาเวิร์สจะกลายเป็นแพลตฟอร์มเดียว แพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้จำนวนมากในปัจจุบันอาจดำเนินการเพื่อให้ดื่มด่ำและมีส่วนร่วมมากขึ้น ในขณะที่สภาพแวดล้อมที่มีขนาดเล็กลงคล้ายเมตาเวิร์สจะพยายามดึงดูดฐานผู้ใช้ที่ใหญ่ขึ้น โลกเสมือนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นไซโลอิสระ เนื่องจากบริษัทเอกชนพยายามที่จะชดเชยการลงทุนของพวกเขาโดยใช้ประโยชน์จากมูลค่าของชุดข้อมูลพื้นฐาน

อุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่จำกัดแค่การจัดแสดงโดยใช้เทคโนโลยีประเภทเมตาเวิร์ส แต่รวมไปถึงความบันเทิง การผลิต การดูแลสุขภาพ การศึกษา และการฝึกอบรมพนักงาน

ห้าสนามรบแข่งขันสำคัญ

ห้าสมรภูมิการแข่งขันที่สำคัญที่ผู้บริหารควรพิจารณาหากต้องการได้รับส่วนแบ่งการตลาดในเมตาเวิร์ส ได้แก่ 

• ประสบการณ์เสมือนจริง (คาดการณ์โดย Bain ว่ามีขนาดประมาณ 65% ของขนาดตลาดที่คาดการณ์ไว้ในปี 2030) แม้ว่าปัจจุบันเกมจะเป็นแอปพลิเคชันเมตาเวิร์สชั้นนำของผู้บริโภค แต่การออกกำลังกายและความบันเทิงที่ดื่มด่ำก็น่าสนใจเช่นกันในระยะกลาง ในด้านองค์กร มีกรณีการใช้งานที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้น โดยหลักๆ แล้วจะเป็นการทำงานร่วมกันและผลิตภาพ แต่ยังรวมไปถึงการตลาดดิจิทัล การฝึกอบรมพนักงาน การศึกษา และการดูแลสุขภาพด้วย
  
• เครื่องมือสร้างเนื้อหา (ประมาณ 5% ของขนาดตลาดเมตาเวิร์สในปี 2030) มีเครื่องมือซอฟต์แวร์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ให้บริการแบบเอกสารสำเร็จรูป แพลตฟอร์มการแก้ไข และอินเทอร์เฟซสำหรับการสร้างโลกและประสบการณ์ของเมตาเวิร์ส ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเนื้อหาได้ง่าย
  
• App Store และระบบปฏิบัติการ (ประมาณ 10% ของขนาดตลาดเมตาเวิร์สในปี 2030) บทบาทของ app store จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นของเมตาเวิร์ส โดยมอบประสบการณ์คุณภาพสูงที่คัดสรรมาเพื่อให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มและชุดหูฟังที่ใช้ในการเข้าถึงเมตาเวิร์ส
  
• อุปกรณ์ (ประมาณ 10% ของขนาดตลาดเมตาเวิร์สในปี 2030) ต้องเอาชนะอุปสรรคทางเทคโนโลยีที่สำคัญก่อนที่จะมีอุปกรณ์แบบสแตนด์อโลนที่สะดวกสบาย ซึ่งช่วยให้ได้รับประสบการณ์ที่ดื่มด่ำอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ในวงกว้าง เนื้อหาเมตาเวิร์สจะต้องทำงานในอุปกรณ์ทุกประเภท ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เกมคอนโซล และสมาร์ทโฟนในอนาคตอันใกล้
  
• คอมพิวเตอร์และโครงสร้างพื้นฐาน (ประมาณ 10% ของขนาดตลาดเมตาเวิร์สในปี 2030) บริษัทฮาร์ดแวร์จะเผชิญแรงกดดันในการพัฒนาชิป เซิร์ฟเวอร์ และเทคโนโลยีเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อแสดงกราฟิกคุณภาพสูงและลดเวลาแฝง

แหล่งข่าว -> prnewswire.com