มีเทรดเดอร์ NFT เพียง 11,440 รายที่แอคทีฟในวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021
ปริมาณซื้อขายโทเคน NFT ลดลงมามากหลังจากการล่มสลายของ Silicon Valley Bank (SVB) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเทรดเดอร์หนีออกจากตลาดด้วยความกลัวผลกระทบของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
ตามรายงานเมื่อวันที่ 16 มีนาคม จากแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูล DappRadar ปริมาณการซื้อขาย NFT อยู่ระหว่าง 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การล่มสลายของ SVB ในวันที่ 10 มีนาคม นั้นปริมาณซื้อขายลดลงเหลือ 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 12 มีนาคม
ยอดซื้อขาย NFT รายวันลดลง 27.9% ระหว่างวันที่ 9 มีนาคมถึง 11 มีนาคม

มีเพียงเทรดเดอร์ NFT 11,440 ราย “แอคทีฟ” ในวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดที่บันทึกไว้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 (ข้อมูลจาก DappRadar)
รายงานอธิบายว่า การร่วงของ USD Coin แตะระดับต่ำสุดที่ $0.88 ทำให้ความสนใจของเทรดเดอร์ออกห่างจากตลาด NFT
ส่งผลให้ “เทรดเดอร์ NFT แอคทีฟน้อยลงมาก” Dappradar อธิบาย
แม้ว่าปริมาณซื้อขายจะลดลง แต่มูลค่าตลาดของ “Blue-Chip NFT” ก็ไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาพื้นของคอลเลกชันเช่น Bored Apes Yacht Club (BAYC) และ CryptoPunks ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“การฟื้นตัวเป็นไปอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ NFT ระดับสูงเหล่านี้” DappRadar กล่าว “Blue-Chip NFT ยังคงเป็นการลงทุนที่มั่นคงในตลาดที่หยุดชะงัก”
ราคาพื้นของ BAYC และ CryptoPunks นั้นเสถียรภาพ อาจมาจากบริษัทที่อยู่เบื้องหลังคอลเลกชัน Yuga Labs ซึ่งยืนยันว่ามีเพียง “ความเสี่ยงที่จำกัดมาก” สำหรับ SVB ตามที่ Greg Solano ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าว
อย่างไรก็ตาม ราคาพื้นของคอลเลกชัน Moonbirds ลดลงอย่างมาก 35.3% จาก 6.18 ETH เป็น 4 ETH บน OpenSea หลังจากมีข่าวว่า PROOF ซึ่งเป็นทีมที่อยู่เบื้องหลัง NFTs ได้จัดสรรเงินใน SVB เป็นจำนวนมาก

สิ่งนี้เกิดขึ้นบางส่วนโดยที่อยู่ Ethereum หนึ่ง ขาย NFT ของ Moonbirds เกือบ 500 รายการ สูญเสียระหว่าง 9% ถึง 33% DappRadar อธิบาย
การเทขายในตลาด NFT Blur ประมาณ 700 Ether (ETH)
แหล่งข่าว : cointelegraph.com