กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของญี่ปุ่น รวมถึงฟูจิตสึและมิตซูบิชิ ได้ร่วมกันทำข้อตกลงใหม่เพื่อช่วยพัฒนาภาคเมตาเวิร์สของประเทศ
ความสนใจในเมตาเวิร์สกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยมีประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเข้ามามีส่วนร่วม
ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มักเกี่ยวข้องกับภาคส่วนเทคโนโลยีดั้งเดิม กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงได้ตกลงกันเมื่อวันที่ 27 ก.พ. เพื่อส่งต่อการสร้าง “Japan Metaverse Economic Zone”
นอกเหนือจากการสร้าง Japan Metaverse Economic Zone แล้ว ข้อตกลงดังกล่าวยังเน้นไปที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานเมตาเวิร์สแบบเปิดที่เรียกว่า “Ryugukoku” ซึ่งจะจุดประกายคลื่นลูกต่อไปของการพัฒนาเมตาเวิร์ส
โครงสร้างพื้นฐานเมตาเวิร์สแบบเปิดนี้จะช่วยสร้างเครื่องมือที่ทำงานร่วมกันได้สำหรับผู้ใช้งานและนักพัฒนาในแพลตฟอร์มต่าง ๆ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมใหม่สำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลขององค์กรอีกด้วย
ตามเงื่อนไขแล้ว บริษัทที่ลงนามในข้อตกลงจะผนวก “เทคโนโลยีและบริการที่เกี่ยวข้อง” ของพวกเขาเพื่อสร้าง Ryugukoku ซึ่งรวมถึงเกมฟิเคชั่น ฟินเทค และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เขตเศรษฐกิจเมตาเวิร์สของญี่ปุ่นจะเป็นระบบนิเวศที่จะเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างบริการและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของเมตาเวิร์สที่มีให้สำหรับผู้บริโภคในญี่ปุ่น ข้อตกลงดังกล่าวยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในอนาคตในการ “จัดหาโครงสร้างพื้นฐานนี้ให้กับบริษัทและหน่วยงานรัฐบาลนอกประเทศญี่ปุ่น”
บริษัทญี่ปุ่นที่ทำข้อตกลงนี้ ได้แก่ Fujitsu, Mitsubishi และ TBT Lab เป็นต้น
หน่วยงานกำกับดูแลของญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับภาคเทคโนโลยีทางการเงินของประเทศ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีของประเทศยอมรับองค์กรปกครองตนเองแบบกระจายอำนาจ (DAO) และโทเคนที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ (NFT) เพื่อเป็นหนทางในการสนับสนุนกลยุทธ์ “Cool Japan” ของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม การศึกษา DAO ในฐานะเครื่องมือกำกับดูแลย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน 2022 เมื่อ Digital Agency ของญี่ปุ่นเปิดตัว DAO ของตนเอง
ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศแผนการที่จะเปิดตัวโครงการนำร่องสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) อย่างเป็นทางการก่อนเดือนพฤษภาคม 2023
แหล่งข่าว -> cointelegraph.com