ความเชื่อมั่นของ Bill Ackman ต่อคริปโตเกิดขึ้นท่ามกลางชุมชนส่วนใหญ่พยายามที่จะฟื้นความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมหลังเกิดวิกฤติ FTX
Bill Ackman นักลงทุนมหาเศรษฐีและผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ กล่าวว่าเขายังคงเชื่อมั่นต่อคริปโตเคอร์เรนซี แม้ว่าตลาดซื้อขายคริปโตอย่าง FTX จะล่มสลายเมื่อเร็ว ๆ นี้ และความวุ่นวายในตลาดเกิดขึ้นตามมา
จากโพสต์ Twitter เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทจัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Pershing Square Capital Management กล่าวว่า เขาเชื่อมั่นว่า “คริปโตจะคงอยู่ต่อไป” แม้จะมีความท้าทายล่าสุดก็ตาม ตลอดจนจำเป็นต้องเพิ่มการกำกับดูและกำจัด “พวกฉ้อฉล” ออกจากพื้นที่นี้
Bill Ackman เป็นนักลงทุนชาวอเมริกันมหาเศรษฐีระดับพันล้าน ล่าสุดได้เรียกร้องให้มีการขจัดอุปสรรคด้านกฎระเบียบและการผ่อนคลายกฎระเบียบในนิวยอร์ก เพื่อทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางคริปโต เขายังเป็นนักลงทุนโดยตรงในโครงการคริปโตเคอร์เรนซีหลายโครงการด้วยกัน
“ฉันคิดว่าคริปโตยังคงอยู่ต่อไปและด้วยการกำกับดูแลที่เหมาะสม มันมีศักยภาพสร้างประโยชน์ต่อสังคมอย่างมาก และทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโต” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม Ackman กล่าวว่า ทำนองเดียวกันกับการประดิษฐ์โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีนี้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นในแง่ของความสามารถในการอำนวยความสะดวกในการฉ้อโกง
ปัญหาของคริปโตคือ ผู้ก่อการที่ผิดจรรยาบรรณสามารถสร้างโทเคนเพียงเพื่ออำนวยความสะดวกในปั่นรราคา ในความเป็นจริงอาจเป็นไปได้ว่าเหรียญคริปโตส่วนใหญ่นั้น ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการฉ้อฉลมากกว่าการสร้างธุรกิจที่ถูกกฎหมาย
Ackman กล่าวต่ออีกว่า ด้วยการกำกับดูแลที่เหมาะสมจากผู้นำในอุตสาหกรรม สามารถกำจัด “ผู้ฉ้อฉล” เหล่านี้ได้
ผู้เข้าร่วมที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกคนในระบบนิเวศคริปโตควรได้รับแรงจูงใจอย่างสูงในการเปิดเผยและกำจัดผู้ฉ้อโกง เนื่องจากพวกเขาเพิ่มความเสี่ยงอย่างมากต่อการแทรกแซงด้านกฎระเบียบ ซึ่งจะขัดขวางผลกระทบเชิงบวกที่อาจเกิดขึ้นจากคริปโตไปหลายชั่วอายุคน
นักลงทุนรายนี้ ยังกล่าวด้วยว่าในตอนแรกเขาเป็นหนึ่งใน “ผู้ที่สงสัยกังขาต่อคริปโต” ตอนนี้เขาเห็นว่ามันมี “ศักยภาพในการสร้างประโยชน์อย่างมากต่อสังคมและทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโต” เขากล่าวเสริมว่า
ตอนแรกฉันเป็นคนระแวงเกี่ยวกับคริปโต ต่อมาฉันเชื่อว่าคริปโตสามารถช่วยด้านธุรกิจและเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถสร้างได้
“ความสามารถในการออกโทเคนเพื่อจูงใจผู้เข้าร่วมในกิจการเป็นกลไกที่ทรงพลังในการเข้าถึงแรงานทั่วโลกเพื่อพัฒนาโครงการ” เขากล่าวเสริม
Ackman เสริมว่า “การควบคุมและการกำกับดูแลที่สมเหตุสมผล” จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเทคโนโลยีไปข้างหน้า
แหล่งข่าว -> cointelegraph.com
