เทคโนโลยี Web3 อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมอุตสหกรรมท่องเที่ยว การเดินทาง และสายการบิน

เทคโนโลยี Web3 อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมอุตสหกรรมท่องเที่ยว การเดินทาง และสายการบิน

NFTickets ช่วยให้สายการบินและกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มรายได้ผ่านการขายในตลาดรอง (secondary market) ได้

บริษัทและอุตสาหกรรมต่าง ๆ กำลังผสมผสานเทคโนโลยี Web3 เข้ากับโครงสร้างธุรกิจของตนและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ไม่มีข้อยกเว้น

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Flybondi สายการบินอาร์เจนตินา ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ TravelX บริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชนที่รับผิดชอบการสร้างตั๋วเครื่องบินแปลงเป็นโทเคน ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้นักเดินทางสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินที่แปลงเป็นโทเคน NFT ผ่าน Binance Pay ได้ โดยใช้ USD Coin (USDC) เป็นเพย์เมนต์ในการทำธุรกรรม 

Facundo Diaz ผู้ร่วมก่อตั้ง TravelX พูดคุยกับทาง Cointelegraph ว่า เขาเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่า เทคโนโลยี Web3 จะช่วยให้อุตสาหกรรมเดินทางขยายตัวได้ ไม่เพียงแต่เรื่องขนาดตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกรณีการใช้งานและผลประโยชน์สำหรับนักเดินทางด้วย

“ในปี 1990 มีผู้โดยสารสายการบิน 1.2 พันล้านคน และขนาดตลาดของอุตสาหกรรมมีมูลค่า $250 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ระหว่างปี 1990 ถึง 2007 อุตสาหกรรมนี้เติบโตขึ้นเป็น 2.5 พันล้านเหรียญ ผู้โดยสารและขนาดตลาด $510 พันล้านเหรียญสหรัฐ”

เขาอธิบายว่า มีการเพิ่มขึ้นอีกในปี 2008 เมื่อสมาชิกสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศจำเป็นต้องใช้บริการตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ จำนวนผู้เดินทางเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 พันล้านคนต่อปี และอุตสาหกรรมนี้มีขนาดตลาด $870 พันล้านเหรียญสหรัฐ

Diaz เชื่อว่า NFTickets อาจเป็นประโยชน์ต่อนักเดินทาง เพราะมันจะช่วยให้ใบปลิวสามารถประมูล ขาย แลกเปลี่ยน และโอนตั๋วจาก wallet ไปยัง wallet อื่นได้ ทำให้พวกเขาควบคุมการจัดการและกำจัดทรัพย์สินการเดินทางได้อย่างอิสระและราบรื่น

“ลองนึกภาพดูว่า คุณสามารถขายตั๋ว NFTicket ของคุณได้ หากคุณไม่สามารถเดินทางได้ หรือส่งข้อความเป็นของขวัญให้คุณแม่ได้ทุกเวลาเมื่อคุณต้องการ”

นอกจากนี้ NFTickets อาจอนุญาตให้สายการบินเพิ่มรายได้ผ่านการขายจากตลาดรอง Diaz บอกกับทาง Cointelegraph ว่า “ทุกครั้งที่มีการขายตั๋ว NFTicket  ใจตลาดรอง สายการบินจะรวบรวมเปอร์เซ็นต์ของส่วนต่างตามรูปแบบการแบ่งรายได้ที่กำหนดไว้ในสัญญาอัจฉริยะ”

เพื่อพูดถึงวิสัยทัศน์อนาคตที่สดใสของเขาและน่าตื่นเต้นสำหรับวงการนี้ Diaz บอกว่า 

“เราเชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานการจำหน่ายและการค้าปลีกบนบล็อกเชนที่เรากำลังสร้างขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะช่วยพัฒนาให้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่โปร่งใสมากขึ้น ขับเคลื่อนด้วยสัญญาอัจฉริยะปราศจาก black box, ค่าธรรมเนียม หรือเงื่อนไขที่ซ้อนเร้น”

เขาเสริมว่า “แต่กรณีการใช้งานใหม่ที่น่าสนใจที่สุด คือ กรณีใช้งานที่เรายังคาดไม่ถึง”

TravelX ยังหวังที่จะสร้างแบบอย่างกำหนดมาตรฐานของ NFTickets ภายในอุตสาหกรรมการเดินทาง แต่ไม่มีเจตนาที่จะผูกขาดตลาด Diaz กล่าว

“เราเพียงแค่สร้างเลเยอร์แรกของโครงสร้างพื้นฐาน และเรากำลังเปิดให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปัจจุบันและผู้เล่นใหม่ เช่น ตลาดซื้อขาย (Exchange), โปรโตคอล DeFi หรือผู้ประกอบการ เพื่อเชื่อมต่อและสร้างโซลูชั่นใหม่นอกเหนือจากนั้น”

เขาอธิบายว่าบริษัทบล็อกเชนกำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานบนเครือข่าย Algorand เนื่องจาก “ด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ต้นทุน และความสามารถในการปรับสเกลได้ แต่ส่วนใหญ่เพราะเป็นบล็อกเชนที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม เมื่อพิจารณาถึง proof of stake บรรลุสถานะคาร์บอนติดลบ”

ปัจจุบัน TravelX เป็นบริษัทในสหรัฐฯ มุ่งเน้นกระจายสินค้าคงคลังของสายการบิน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ท้าทายที่สุดที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกภายในอุตสาหกรรมเดินทาง Diaz บอกว่า “TravelX อยุ่ในระหว่างการเจรจาและทำงานร่วมกับสายการบิน 60 แห่งในยุโรป ตะวันออกกลาง และสหรัฐฯ เพื่อให้พวกเขาสามารถรวบรวมมาตรฐานและโครงสร้างพื้นฐานของ TravelX สำหรับการจัดการและกระจายสินค้าคงคลังได้”

แหล่งข่าว -> cointelegraph.com

แบ่งปันให้เพื่อน :

Related news

Follow us

LATEST NEWS

COMMUNITY

Metaverse Jobs Thailand

(หา สมัครงาน เมตาเวิร์ส)

Metaverse Thailand

(Metaverse Thailand)

Blockchain Engineer

(Blockchain Engineer)

WEB 3.0 Thailand

(WEB 3.0 Thailand)

OpenChat Thailand

(OpenChat Thailand)