ไม่ว่าคุณจะนั่งอยู่บน Peloton หรือกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์เสมือนจริงอยู่นั้น Mark Zuckerberg บอกว่า คุณก็กำลังร่วมอยู่เมตาเวิร์สแล้ว
จากพอดแคสต์ Joe Rogan Experience เดือนสิงหาคม ซีอีโอ Meta กล่าวว่า วิวัฒนาการของความเป็นจริงเสมือน (virtual reality) จะเผยออกมาเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ เกมเมอร์เป็นพวกแรก ๆ สำรวจเทคโนโลยีใหม่นี้ แล้วการยอมรับจากกระแสหลักจะตามมา เพื่อใช้งานเข้าสู่สังคม
ทว่าเมตาเวิร์สดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนแปลงมากกว่านั้น Zuckerberg กล่าว เขามองว่าแอพฟิตเนส อย่างเช่น Peloton เป็นขั้นที่สามของวิวัฒนาการของ VR (virtual reality) เนื่องจากเทคโนโลยีของพวกเขาเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกผ่านการเคลื่อนไหวทางกายภาพ
“นี่เป็นทฤษฎีของฉัน ‘การเล่มเกมเป็นกรณีใช้งานอันดับหนึ่งสำหรับ VR [virtual reality]’” Zuckerberg กล่าวในพอดแคสต์ “และมันค่อนข้างเร็วมาก…เรากำลังจะใช้งานด้านอื่น ๆ อย่างบ้าคลั่งและกำลังเกิดขึ้นเร็วกว่าที่ฉันคิดเอาไว้”
ขณะที่ผู้บริหาร Meta ยอมรับว่า อาจต้องใช้เวลาถึง 15 ปี เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์เมตาเวิร์สอย่างเต็มที่ องค์ประกอบต่าง ๆ เช่น แพลตฟอร์มเกม โซเชียลมีเดีย และฟิตเนส ผู้ใช้งานได้เริ่มมีส่วนร่วมในโลกเสมือนจริงแล้ว และ Zuckerberg กล่าวว่าแอพออกกำลังกายช่วยให้ประสบการณ์เหล่านั้นดื่มด่ำและสมจริงยิ่งขึ้น
นั่นคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Meta มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้คนเชื่อมต่อและสื่อสารทางออนไลน์ถึงกัน Zuckerberg
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Zuckerberg เชื่อมโยงแพลตฟอร์มฟิตเนสเสมือนกับงานที่ Meta ทำ เมื่อปีที่ผ่านมา ที่งานประชุม VivaTech ด้านเทคโนโลยีที่ฝรั่งเศส Zuckerberg กล่าวว่า VR และ augmented reality (AR) อาจอยู่ในแนวหน้าของ “แพลตฟอร์มการประมวลผลขนาดใหญ่ถัดไป”
“ไม่ใช่ว่าคอมพิวเตอร์จะเลิกใช้งานหรือโทรศัพท์กำลังจะเลิกใช้กัน” Zuckerberg กล่าวในขณะนั้น “แต่ฉันคิดว่าสิ่งนี้มีศักยภาพที่จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งในโลกนี้”
วิวัฒนาการดังกล่าวยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์เมตาเวิร์สของ Zuckerberg หลายครั้งด้วยกันที่ผู้ร่วมก่อตั้ง Meta กล่าวว่า เขาต้องการให้สื่อมีความสมจริงมากขึ้นและแยกแยะความแตกต่างจากความเป็นจริงทางกายภาพให้น้อยลง
“สิ่งเหล่านี้เหมือนกับแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ทางกายภาพครั้งแรก [ที่] คุณไม่ขยับไปมาในขณะที่คุณใช้คอมพิวเตอร์” Zuckerberg กล่าวอีกว่า “VR และในที่สุด AR จะถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถ…โต้ตอบกับโลกได้”
แหล่งข่าว -> cnbc.com