หลังจาก Ethereum Merge สำเร็จ แต่ไม่ได้ทำให้เกิดตลาดกระทิง ต้องเผชิญกับแรงกดดันตลาดต่อเนื่อง และหุ้นมีแนวโน้มลดลง
Bitcoin (BTC) พยายามฝ่าจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 16 กันยายน เนื่องจากเทรนด์ขาลงคริปโตยังแรงขึ้น
กราฟแท่งเทียน BTC/USD รายชั่วโมง (Bitstamp) ที่มา: TradingView
ตลาดคริปโตร่วงหลังจากเหตุการณ์ Ethereum Merge
ข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView พบว่า BTC/USD ร่วงสู่ระดับ $19,600
ระดับดังกล่าวในรอบวัน เกิดแรงเทขายหลังจาก Ethereum Merge เสร็จสิ้น ทำให้ Ether (ETH)/BTC สู่ระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์

ท่ามกลางบรรกาศที่อึมครึม เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์มีแนวโน้มลำเอียงเล็กน้อยต่อเทรนด์ตลาด
“ฉันรู้สึกมั่นใจกับสถานการณ์ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 23k ต่อ BTC และ 1800 ต่อ ETH …” Il Capo of Crypto ย้ำ
“เวลาจะบอกเอง”
ขอเตือนว่าสถานการณ์ “ดูไม่ดี” ในขณะเดียวกันบัญชี CryptoBullet ยอดนิยม เรียกร้องให้กลับสู่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน เพื่อพลิกกลับเป็นขาขึ้นในกราฟราย 4 ชั่วโมง
#BTC’s holding the 0.618 Fib like a champ 💪
— CryptoBullet (@CryptoBullet1) September 15, 2022
To be bullish we need to reclaim the MA100 pic.twitter.com/GoYTwDdxjS
การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นของเฟดทำให้หุ้นร่วง — Dalio
หลังจากตลาดหุ้นร่วงอีกวัน นักลงทุนอย่าง Ray Dalio ได้ข้อสรุปใหม่ ๆ เกี่ยวกับสภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ส่งผลต่อตลาด
ในบล็อกโพสต์เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 กันยายน นั้น Dalio คาดการณ์ว่าความเสียหายโดยรวมต่อตลาดหุ้นถึง 30% จากมูลค่าประเมินในปัจจุบัน
“การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลเชิงลบต่อราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ สองประเด็นด้วยกัน 1) อัตราคิดลด (value discount rate) ในปัจจุบัน 2) การลดลงของรายได้จากสินทรัพย์เนื่องจากเศรษฐกิจอ่อนแอ เราต้องดูทั้งสองอย่าง” เขาอธิบาย
“อะไรคือการประมาณของคุณสำหรับเรื่องนี้? ฉันประเมินว่าอัตราที่เพิ่มขึ้นจากที่อยู่ประมาณ 4.5% จะส่งผลกระทบประมาณ 20% ต่อราคาหุ้น (โดยเฉลี่ยแล้วจะมากกว่าต่อสินทรัพย์ระยะยาวและน้อยกว่าต่อสินทรัพย์ระยะสั้น) โดยอิงผลกระทบของอัตราคิดลดปัจจุบัน และผลกระทบเชิงลบประมาณ 10% ของรายได้ที่ลดลง”
นั่นทำให้เกิดอันตรายต่อตลาดคริปโตที่มีความสัมพันธ์กันสูง มีโอกาสทำให้ Bitcoin ร่วงต่ำกว่านี้
เฟดสหรัฐเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 จุด ในที่ประชุม FOMC (Federal Open Markets Committee) ในสัปดาห์หน้า โดยมีผู้เข้าร่วมตลาดบางรายคาดถึง 100 จุด (ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool)

แหล่งข่าว -> cointelegraph.com