โฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับบริการ staking ของ Terra Classic และฟีเจอร์การเบิร์นโทเคนใหม่กำลังช่วยกระตุ้นการทะยานขึ้นของ LUNC
Terra Classic (LUNC) มีประสิทธิภาพเหนือว่าทุกคริปโตเคอร์เรนซีชั้นนำทั้งหมดในเดือนกันยายน เติบโตเกือบ 100% ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา
Terra Classic มีประสิทธิภาพเหนือกว่าตลาดคริปโต
โทเคนนี้พุ่งมากกว่า 250% ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน แตะ $0.000594 เมื่อวันที่ 8 กันยายน มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Bitcoin และ Ether ในช่วงเวลาเดียวกัน
ผลกำไร Terra Classic เกิดขึ้นแม้ว่าโครงการ Terra (LUNA) มูลค่า $40 พันล้านเหรียญสหรัฐล่มสลายในเดือนพฤษภาคม Terra Classic เป็นเวอร์ชั่นรีแบรนด์ของโครงการ Terra จึงเป็นประเด็นที่วิเคราะห์และนักลงทุนตั้งข้อกังขาตั้งแต่เปิดตัว
แต่เทรดเดอร์ก็เพิกเฉยต่อคำเตือนต่าง ๆ กันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีตัวเร่งพื้นฐานจำนวนมากที่มีอิทธิพลต่อพวกเขาในการซื้อ LUNC
Staking service
บริการ Staking เริ่มให้บริการในเชน Terra Classic เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม โดยทำหน้าที่เป็นสัญญาณสำคัญครั้งแรก ซึ่งอยู่เบื้องหลังการทะยานขึ้นของราคา LUNC ที่กำลังดำเนินอยู่
ข้อมูลจาก LuncStaking_Bot เดิมพัน stake มากกว่า 610 พันล้านเหรียญ LUNC กับ Terra Classic กล่าวอีกนัยหนึ่ง คิดเป็น 9% เทียบกับอุปทาน 6.9 ล้านล้านเหรียญ
StakingRewards พบว่า การ staking Terra Classic นั้น ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ใช้งานที่ 37.8% ต่อปี เป็นหนึ่งในการจ่ายสูงสุดในวงการคริปโต
ผลตอบแทนที่สูงขึ้นอาจมีบทบาทสำคัญกระตุ้นความต้องการ ส่งผลให้ราคาโทเคนทะยานขึ้นมากกว่า 450% ตั้งแต่เปิดตัวบริการ staking service ดังกราฟแสดงข้างล่างนี้
กราฟราคา LUNC/USD รายวัน ที่มา: TradingView
LUNC token burn
นอกเหนือจากเรื่อง staking แล้ว นักพัฒนา Terra Classic ยังออกกลไกการเบิร์นเพื่อเพิ่มความขาดแคลนของ LUNC
Edward Kim สมาชิกชุมชน Terra Classic เสนอให้เรียกเก็บภาษีธุรกรรม 1.2% สำหรับธุรกรรมภายในเครือข่าย LUNC เมื่อต้นเดือนกันยายน กระบวนการที่ดำเนินการนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อ address ไม่ได้ใช้งานแล้ว ดังนั้นจึงเป็นการถอดอุปทาน LUNC ส่วนหนึ่งออกจากการหมุนเวียนอย่างถาวร
ที่น่าสนใจคือ มีกลไกการเบิร์น LUNC อยู่แล้ว ได้เบิร์นโทเคนออกจากการหมุนเวียนไปแล้วกว่า 3.6 พันล้านโทเคนอย่างถาวร (ตามรายงานของ LUNC Burner)
สัญญาณชี้การปรับฐาน
อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดทางเทคนิคบางตัวบ่งชี้ว่าการปรับตัวขึ้นของราคา LUNC มีความเสี่ยงต่อการปรับฐานในระยะเวลาอันใกล้ ได้แก่ ดัชนี relative strength index (RSI) เลยเส้น 90 เมื่อวันที่ 8 กันยายน ถือเป็นระดับ overbought ที่มักจะเกิดการปรับฐานตามมา
กราฟราคา LUNC/USD รายวัน ที่มา: TradingView
นอกจากนี้ การทะยานขึ้นของ LUNC เมื่อปริมาณซื้อขายต่ำลง บ่งชี้ว่าเทรดเดอร์ยังไม่เชื่อมั่นการทะยานขึ้นของราคาอย่างแข็งแกร่ง
แหล่งข่าว -> cointelegraph.com