รายงานระบุว่า สถาบันการเงินที่สำรวจมากถึง 76% วางแผนที่จะใช้คริปโตภายในสามปีข้างหน้านี้ รายงานใหม่ล่าสุดของ Ripple เน้นย้ำถึงแนวโน้มการยอมรับและใช้งานเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Technology) อย่างเช่น คริปโต และบล็อกเชนในองค์กรและสถาบันทางการเงิน
ทั้งสถาบันทางการเงินและองค์กรต่างเข้าใจถึงประโยชน์ของการใช้คริปโตภายใน สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ คริปโตทำให้ผู้คนเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น ระบุโดยสถาบันทางการเงิน 42% และจากองค์กร 41%
จากการสำรวจพบว่า การจัดการพอร์ตการลงทุนและเพย์เมนต์ถือเป็นส่วนเสริมที่มีค่าที่สุดในโลกขององค์กร การจัดการพอร์ตลงทุนมีรายละเอียดเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ การป้องกันความเสี่ยงจากสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ และการแข็งค่าของสินทรัพย์ ผู้เข้าร่วมกล่าวว่า ความปลอดภัยและคุณภาพของข้อมูลเป็นข้อดีสองประการของการใช้บล็อกเชนและคริปโตสำหรับเพย์เมนต์
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ การยอมรับยังคงเป็นศึกหนักสำหรับสถาบันขนาดใหญ่ ตามรายงานนั้น สถาบันและองค์กรต่างพบว่าการขาดความเข้าใจโดยทั่วไปเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด
อย่างไรก็ตาม รายงานยังเน้นว่ากระบวนการที่เคลื่อนไหวล่าช้าของกฎระเบียบต่อวงการทำให้เกิดความลังเลใจจากผู้ใช้งานที่มีศักยภาพ กฎระเบียบจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเจ้าหน้าต้องเร่งรีบเพื่อให้ทันกับเหตุการณ์คริปโตที่รวดเร็ว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกาได้รับการตรวจสอบจากรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐเรื่อง “การดำเนินการที่ไม่ใช่กลไกตามกระบวนการยุติธรรม” ต่อบริษัทคริปโต สำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ มีความยากลำบากต่อการใช้กฎระเบียบคริปโตที่มีประสิทธิภาพสำหรับวงการที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดวงการหนึ่ง
แม้จะมีความพ่ายแพ้ในเรื่องกฎระเบียบและมืดมน แต่รายงานยังคงเปิดเผยความสนใจของสถาบันทั่วโลกและสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) โดย 34% ของสถาบันที่สำรวจกล่าวว่า CBDC จะช่วย “เร่งการแปลงการเงินเป็นดิจิทัล” และให้ “การเข้าถึงสินเชื่อแก่ผู้บริโภคและธุรกิจมากขึ้น”
จากมุมมองทั่วโลก รายงานได้วิเคราะห์ความสนใจโทเคน NFT ระดับภูมิภาคโดยพิจารณาจากผลประโยชน์ทางอารมณ์ความรู้สึกและประโยชน์ด้านใช้สอย
ผู้ตอบแบบสำรวจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มที่จะซื้อ NFT ด้วยเหตุผลทางอารมณ์ความรู้สึกมากว่าเหตุผลอื่น ๆ ถึง 3 เท่า จาก 8 ประเภท NFT ที่ระบุไว้ 55% โดยกล่าวว่า NFT ที่เกี่ยวข้องกับดนตรีเป็นที่สนใจมากที่สุด
ความยั่งยืนก็ถูกประเมินเช่นกัน เนื่องจากยังคงเป็นประเด็นร้อนทั้งในและนอกวงการ จากข้อมูลของ Ripple กว่า 75% ของผู้บริโภคที่สำรวจต้องการซื้อคริปโตเคอร์เรนซีที่ยั่งยืน มากกว่า 20% อ้างว่า พวกเขาซื้อคริปโต “ที่ยั่งยืน” เท่านั้น
แหล่งข่าว -> cointelegraph.com