“กิจกรรมที่ผิดกฎหมายหรือทางอาญามีแนวโน้มที่จะเฟื่องฟูในความมืด เนื่องจากจะเป็นการยากที่จะติดตามและตรวจสอบ” Trend Micro กล่าว
รายงานฉบับใหม่ที่เผยแพร่โดยบริษัท Trend Micro บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์สัญชาติอเมริกัน-ญี่ปุ่น บริษัทดังกล่าวกล่าวว่า เมตาเวิร์ส (Metaverse) มีช่องโหว่เพิ่มขึ้น สามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
Trend Micro บอก ภัยคุกคามอันดับต้น ๆ ต่อวงการนี้ โดยส่วนใหญ่มาจากมุมมองด้านกฎระเบียบ รวมถึงข้อกังวลด้านความปลอดภัยของ NFT การพัฒนา “ด้านมืด” ที่คล้ายกับเว็บตลาดมืด (Dark Web) การฉ้อโกงทางการเงิน ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ภัยคุกคามทางกายภาพ ภัยคุกคามความเป็นจริงผสมผสาน (augmented reality, AR ) วิศวกรรมสังคม และการโจมตีเทคโนโลยีสารสนเทศเก่า
เมื่อพูดถึง NFT นั้น Trend Micro ระบุเอาไว้ว่า
ความเป็นเจ้าของ NFT ได้รับการตรวจสอบโดยใช้บล็อคเชน ดังนั้นมันจึงอ่อนไหวต่อการโจมตีบล็อกเชน NFT ที่ใช้บล็อคเชนขนาดเล็กอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบซีบิล (Sybil attack) นี่คือจุดที่ผู้โจมตีควบคุมมากกว่า 50% ของโหนดเพียร์ที่ตรวจสอบธุรกรรม และสามารถจัดการการตรวจสอบความเป็นเจ้าของ NFT ได้ สุดท้าย วงการเมตาเวิร์สอาจไม่ให้เกียรติความเป็นเจ้าของที่อ้างสิทธิ์ใน NFT ได้ เนื่องจากไม่มีเหตุผลทางกฎหมายที่จะทำเช่นนั้น
บริษัทยังเชื่อด้วยว่า กลุ่มอาชญากรอาจถูกดึงดูดเข้าสู่โลกเมตาเวิร์ส เนื่องจากมีธุรกรรมอีคอมเมิร์ซจำนวนมาก โดยระบุว่า “ในเมตาเวิร์สเรามีแนวโน้มที่จะเห็น pump-and-dump มากขึ้น คนร้ายที่เป็นอันตรายจะเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการแนะนำ การรับรอง และการลงทุนปลอม แล้วทิ้งทรัพย์สินนั้น” ในทางทฤษฎี การประเมินมูลค่าของที่ดินเสมือนจริงนั้นขึ้นอยู่กับการรับรู้อย่างมากและสามารถเปิดช่องต่อการยักย้าย (manipulation) ได้
สุดท้าย Trend Micro คิดว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอาจต่อสู้ดิ้นรนในช่วงสองสามปีแรกของการพัฒนาเมตาเวิร์ส เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงต่อการสกัดกั้นอาชญากรรมทางดิจิทัลและอาชญากรในวงกว้าง พวกเขาจะมีปัญหาด้วยเพราะเขตอำนาจนั้นยากที่จะจัดตั้งขึ้น เวลามีจำเป็นในการสร้างความเชี่ยวชาญด้านเมตาเวิร์ส นั่นหมายความว่าอาชญากรรมประเภทนี้อาจไม่ได้ถูกตรวจสอบอย่างมากในช่วงปีแรก ๆ บริษัทกล่าวว่า:
“หากผู้ใช้งานถูกฉ้อโกงหรือถูกโจรกรรม การขอความช่วยเหลือ การร้องเรียน หรือการดำเนินการทางกฎหมายจะเป็นเรื่องยากมาก ผู้ใช้งานจะใช้สกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนของสถานการณ์”
โดยสรุป รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้มีการพัฒนารูปแบบการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะมีการลงทุนจำนวนมากเข้าสู่วงการ Mark Zuckerberg ซีอีโอแห่ง Meta กล่าวเมื่อไม่นานนี้ว่า เมตาเวิร์สเป็นโอกาสที่สามารถปลดล็อก ‘ล้านล้านเหรียญสหรัฐ’ เมื่อเวลาผ่านไป
แหล่งข่าว -> cointelegraph.com