โดยสรุป
- ต้นทุนการผลิตของ Bitcoin ลดลงประมาณ $7,000 ในเดือนที่ผ่านมา
- ต้นทุนการผลิตที่ลดลงอาจหมายถึงราคา Bitcoin ที่ลดลงอีก
นักวิเคราะห์ของ JPMorgan Chase ประเมินว่าต้นทุนการผลิตของ Bitcoin ลดลงเหลือประมาณ 13,000 ดอลลาร์ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาในเชิงลบต่อไป
ธนาคารเพื่อการลงทุนรายนี้ คาดการณ์ว่าต้นทุนการผลิตเฉลี่ยของ Bitcoin อยู่ที่ $20,000 ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ลดลงเหลือ $15,000 ภายในสิ้นเดือน และเหลือ $13,000 ในวันพุธ นักวิเคราะห์มองว่าการลดลงเป็นผลมาจากการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง
รายงานของวันพฤหัสฯ ระบุเอาไว้ว่า “การลดลงของประมาณการต้นทุนการผลิตได้รับแรงหนุนเกือบทั้งหมดจากการลดลงของการใช้ไฟฟ้าตามที่ดัชนีการใช้ไฟฟ้า Cambridge Bitcoin Electricity Consumption Index (CBECI) ประมาณ” พร้อมทั้งกล่าวต่อไปว่านักขุดกำลังพยายามอย่างมากที่จะปกป้องผลกำไรของพวกเขาโดยการติดตั้งเครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแทนการอพยพจำนวนมากของเครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพต่ำ
เพื่อประเมินต้นทุนการผลิตเชิงปริมาณสำหรับ Bitcoin นั้น JPMorgan ถือว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) และอิงจากต้นทุนการผลิตส่วนเพิ่ม (marginal cost) ต้นทุนการผลิตส่วนเพิ่มประมาณการโดยใช้ข้อมูลราคารายวัน อัตราแฮช และความยากจาก bitinfocharts.com ธนาคารระบุเอาไว้เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน
จากนั้น JPMorgan ใช้การประเมินการใช้ไฟฟ้า CBECI ของ Cambridge Centre for Alternative Finance และอัตราแฮชเพื่ออนุมานประสิทธิภาพโดยนัยของฮาร์ดแวร์เครื่องขุด
รายงานเสริมว่าต้นทุนการผลิตที่ลดลงอาจถูกมองว่าเป็นผลลบต่อราคาของ Bitcoin ในช่วงตลาดหมี ผู้เข้าร่วมตลาดบางรายมองว่าต้นทุนการผลิตเป็นขอบเขตล่างสุดของช่วงราคา
Bitcoin เพิ่งลดลงรายไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 11 ปี โดยลดลง 56% ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ ในขณะเดียวกันคริปโตเคอร์เรนซีราคาร่วงทั้งกระดาน โดยได้รับผลกระทบจากการล่มสลายของ Terra blockchain ในเดือนพฤษภาคมและวิกฤตสภาพคล่องสำหรับแพลตฟอร์มการให้ยืมคริปโตในเดือนมิถุนายน
ภาวะเศรษฐกิจมหภาคยังคงแย่ลงตลอดช่วงเวลานี้ โดยอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในวันพุธ ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.1% ในเดือนมิถุนายน ท่ามกลางความวุ่นวายนี้ JPMorgan รายงานว่ารายได้สุทธิของบริษัทลดลงเกือบ 30% ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้
แหล่งข่าว -> theblock.co