ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมแฟชั่นได้รับแรงผลักดันอย่างมาก แม้ว่าความต้องการด้านแฟชั่นและความหรูหราทางดิจิทัลจะสามารถสร้างยอดขายพิเศษได้ถึง $5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2030 ข้อมูลจากธนาคารเพื่อการลงทุน Morgan Stanley (จาก The Business Of Fashion) การเกิดขึ้นของเมตาเวิร์ส (Metaverse) ยังคงเป็นความท้าทายสำหรับแบรนด์หรู แต่ก็เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นได้พยายามค้นหาวิธีใหม่ๆ ให้อยู่รอดในโลกดิจิทัล เนื่องจากแวดวง Web3 ของอินเทอร์เน็ตต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา เกมโซเชียลและ NFT สามารถเปิดโอกาสอันทรงพลังแก่แฟชั่นในการพัฒนาระบบดิจิทัล เมตาเวิร์สอาจเป็นวิวัฒนาการต่อไปของวิธีการใช้อินเทอร์เน็ต โต้ตอบ ทำงาน เล่นออนไลน์ และแต่งตัวให้ตัวเองในที่สุด
เข้าสู่วงการผ่านการเปิดตัวงานอีเวนต์
ทางเลือกหนึ่งในการเข้าสู่เมตาเวิร์สที่มีผลกระทบต่องานอีเวนต์ภายในเฟรมเวิร์กของวิดีโอกเกม แพลตฟอร์มเกมเป็นพื้นที่ที่แบรนด์ต่าง ๆ สามารถจัดแสดงคอลเล็กชั่นของตนในรูปแบบใหม่ผ่านกิจกรรมดิจิทัล เช่น แฟชั่นโชว์หรือประสบการณ์ที่สมจริงในโลกของผู้อำนวยการสร้างสรรค์ ศิลปินที่มีประสบการณ์อย่างไม่จำกัดสามารถเพลิดเพลินในเมตาเวิร์สอาจเป็นสิ่งที่ทำให้น่าสนใจและตื่นเต้นมาก
ยกตัวอย่างเช่น Gucci จับมือกับ Roblox ในปี 2021 และเชิญผู้คนให้เข้าร่วมเดินทางที่ไม่เหมือนใครในแพลตฟอร์มเสมือนจริง Gucci Garden การเข้าสู่เมตาเวิร์สยังเกี่ยวข้องตลาดแฟชั่นนำไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ จริง ๆ แล้วนัน้ เกมโซเชียลจะรวบรวมผู้เล่นอวตารของพวกเขาไว้ด้วยกัน การร่วมมือกับแพลตฟอร์มและเมตาเวิร์สจึงสามารถช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ มีส่วนร่วมกับชุมชนใหม่ได้ ชุมชนเหล่านี้ประกอบด้วยผู้บริโภคที่หมกมุ่นกับเมตาเวิร์สและเต็มใจที่จะเชื่อมต่อกับแบรนด์ด้านความงามและแฟชั่นเสมือนจริง

ความพยายามของ Balenciaga เข้าสู่ Web3 ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ผ่านความร่วมมือกับ Fortnite โดย Balenciaga ได้สร้างรูปลักษณ์ Balenciaga x Fortnite ของแท้หรือที่รียกว่าสกิน (skin) ที่ผู้ใช้งานสามารถซื้อสำหรับอวาตารเกมของพวกเขาได้ นอกจากนี้ยังปรากฎบนป้ายโฆษณาสามมติติทั่วโลก จึงได้รับความสนใจมากขึ้น ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการผนวกแฟชั่นเข้ากับภูมิทัศน์ดิจิทัล เราได้เห็น Metaverse Fashion Week ครั้งแรก ที่รวมการเปิดใช้งานของแบรนด์ต่าง ๆ อย่างเช่น Dolce & Gabbana, Etro และ Elie Saab ได้ฉวยโอกาสนี้ ขยายจุดเริ่มต้นเข้ามามีส่วนร่วมห้วงเวลาแฟชั่นเมตาเวิร์ส
นอกจากการวางโพซิชั่นตัวเองเป็นผู้นำเทรนด์ภูมิทัศน์การพัฒนาใหม่นี้ แบรนด์ต่าง ๆ สามารถใช้ตัวตนเสมือนเพื่อดึงดูดปริมาณการเข้าชมกลับมาที่ร้านอีคอมเมิร์ซของตน หรือเพื่อขายการออกแบบที่สวมใส่ได้โดยตรง
มีส่วนร่วมใน NFT ที่ได้รับความนิยมมาก
การเข้าสู่วิดีโอเกมนั้นเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วการเป็นผู้บุกเบิกในการสร้างสรรค์ภายในเมตาเวิร์สนั้นจำเป็นต่อการสร้างโมเมนตัม การใช้ NFT เพื่อสร้างเสื้อผ้าเวอร์ชั่นดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งไม่ได้สงวนไว้สำหรับศิลปินหรือผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนอีกต่อไป การผสมผสานคอลเลกชั่นทางกายภาพและดิจิทัลนั้น ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถให้คุณค่าทางดิจิทัลแก่คอลเลกชั่นของตนเองได้ NFT เป็นนวัตกรรม จึงช่วยให้แบรนด์สามารถสสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้โดยไม่จำกัดด้านวัสดุหรือการขนส่ง ยิ่งไปกว่านั้นจิตวิทยาของความขาดแคลนและรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นดูเหมือนว่าขับเคลื่อนความคลั่งไคล้ อาจทำให้เป็นสินทรัพย์ที่แท้จริงสำหรับแบรนด์หรูก็ได้

Dolce & Gabbana ได้สร้าง NFT ร่วมกับ Collezione Genesi โดยร่วมมือกับ UNXD สิ่งที่ UNXD เคลมว่าเป็นคอลเลกชั่น NFT สุดหรูชุดแรก ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดิจิทัลและผลิตภัณฑ์จริง ตลอดจนได้สิทธิ์เข้าถึงกิจกรรมในอนาคต เมื่อซื้อแพ็คเกจแล้วจะเข้าจะได้รับทั้งสินค้าของจริงและสินค้าดิจิทัล และสิทธ์เข้าถึงโชว์ของ Dolce & Gabbana ในอนาคต NFT สามารถเป็นทรัพย์สินที่แท้ได้เมื่อแบรนด์ใช้วิธีนี้ เนื่องจากกระตุ้นให้ผู้ซื้อมีส่วนร่วมกับแบรนด์แฟชั่นในระยะยาวและส่งเสริมความภักดีต่อแบรนด์ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ Dolce & Gabbana ได้เปิดตัวชุมชน DGFamily NFT ทำนองเดียวกันแบรนด์ต่าง ๆ ก็สามารถเปิดตัวชุมชนเพื่อให้เข้าถึงโอกาสที่แท้จริงและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ เช่น สิทธิ์เข้าถึงรุ่นเวอร์ชั่นหรือกิจกรรมที่จำกัดก่อนใคร ในที่สุดแบรนด์ต่าง ๆ ก็สามารถให้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ NFT ปลูกฝังแนวคิดที่หรูหราได้
ยอมรับการชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี
ปฏิเสธไม่ได้สำหรับเราว่าการแสวงหาแนวทางในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้และยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีเป็นวิธีการชำระเงินทางเลือกของแบรนด์เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของแบรนด์นั่นเอง
จริง ๆ แล้ว บล็อกเชนสามารถช่วยปกป้องสินค้าฟุ่มเฟือยของแท้ได้ ประโยชน์หลักสองประการที่สามารถให้ได้คือ การป้องกันแบรนด์จากการปลอมแปลงสินค้า และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าพวกเขากำลังซื้อผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง ระบบการติดตามและสืบเสาะที่สามารถพัฒนาบนบล็อคเชนอาจช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในรูปแบบการค้าปลีกโดยการให้การจัดการข้อมูลและมีความสามารถในการจัดการซัพพลายเชนที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น Aura Blockchain Consortium ในปี 2564 ได้รวบ leading labels ชั้นนำ เช่น Prada, Louis Vuitton และ Cartier เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประวัติผลิตภัณฑ์และการรับรองความถูกต้องสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยผ่านโซลูชั่นบล็อคเชน

ในที่สุดแล้ว แบรนด์หรูอย่าง Hublot, Gucci และ Balenciaga ก็เริ่มยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีเป็นวิธีการชำระเงิน ซึ่งอาจช่วยดึงดูดลูกค้าที่สนใจในคริปโตเหล่านี้และผู้ที่มีเงินลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีแล้ว ตอนนี้เรายังเห็นมาร์เก็ตเพลซ เช่น Farfetch เข้าร่วมการเคลื่อนไหวนี้แล้ว
แม้ว่าเมตาเวิร์สดูเหมือนจะเป็นปรากฏการณ์ที่ท้าทายมากสำหรับวงการนี้ และก็ให้โอกาสแก่แบรนด์ในการพัฒนาและความเป็นไปได้ที่จะยังคงมีความเกี่ยวข้องและมีความหมายในโลกดิจิทัล การเปิดตัวอีเวนต์เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ แบรนด์ต่างๆ ยังสามารถสำรวจบล็อคเชนและการพัฒนาที่เกี่ยวขอ้งได้ เช่น คริปโตเคอร์เรนซีและ NFT เป็นต้น
แหล่งข่าว -> forbes.com