วิกฤติ Terra, Luna และ UST เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน?

วิกฤติ Terra, Luna และ UST เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน?

โดยสรุป

  • เหตุการณ์ตรึงล้มเหลวครั้งประวัติศาสตร์ของ TerraUSD stablecoin ในสัปดาห์นี้ สร้างคลื่นกระทบไปทั่วโลกการเมือง 
  • ต่อไปนี้เป็นบทสรุปว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และเหตุใดจึงสำคัญ

ประวัติศาสตร์คริปโตถูกสร้างขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้ หนึ่งในฐานะ Stablecoin ที่ได้รับความนิยมที่สุดเหรียญหนึ่ง TerraUSD (UST) สูญเสียการตรึงมูลค่า (peg) กับดอลลาร์สหรัฐ และจากนั้นสองสามวันต่อมาร่วงสู่ระดับ $0.30 

เหรียญ Stablecoin นี้ เริ่มสูญเสียความเท่าเทียมกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์ แม้ราคาพยายายามสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยผู้สนับสนุนพยายามรักษาตรึงราคาไว้ แต่ราคาเหรียญมีความผันผวนอย่างมาก และไม่สามารถตรึงมูลค่าเอาไว้ได้

ล่าสุด UST กลับมาซื้อขายที่ประมาณ $0.62 และ Luna โทเคนหลักของ Terra ที่ควรช่วยให้ UST รักษาการตรึงมูลค่าเอาไว้ ราคากลับร่วง 97% จากราคา $84 เมื่อสัปดาห์ก่อน

สถานการณ์ UST มีความซับซ้อนและคลี่คลายได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ นี่คือบทสรุปว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และเหตุใดจึงสำคัญ

จุดเริ่มต้น

เหรียญ Stablecoin เป็นคริปโตเคอร์เรนซีประเภทหนึ่ง ซึ่งมูลค่าควรรักษาเสถียรภาพความเท่าเทียมเอาไว้กับสินทรัพย์ที่ไม่มีความผันผวน โดยทั่วไป คือ ดอลลาร์สหรัฐ

เหรียญ Stablecoin เจ้าเก่า ๆ ได้แก่ USDT ของ Tether และ USDC ของ Circle ซึ่งตรึงด้วยเงินสดและสินทรัพย์อื่น ๆ และยังมีเหรียญ Stablecoin อื่น ๆ ที่ค้ำประกันด้วยคริปโต ที่โดดเด่น นั่นคือ Dai ของ Maker

UST ถูกสร้างขึ้นโดยสตาร์ทอัพที่เรียกว่า Terraform Labs นั่นเหมาะกับจัดประเภท Stablecoin นี้เป็นเที่เรียกว่า เหรียญ “algorithmic” stablecoin แทนที่จะพึ่งพาหลักประกัน (collateral) เหรียญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สิ่งจูงใจของตลาดเพื่อรักษามูลค่า

Terra เปิดตัวในปี 2018 ได้รับการสนับสนุนจาก Binance Labs, OKEx, Huobi Capital และ Dunamu บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง Upbit ของเกาหลี โดย UST เปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงปี 2020 และ Stablecoin นี้ เติบโตอย่างมากในช่วงตลาดกระทิงปี 2021

คุณ Do Kwon ซีอีโอ Terraform Labs อธิบายว่า UST ควรทำงานอย่างไร (ในรายการ The Scoop ล่าสุด)

“แนวคิดก็คือ เมื่อใดก็ตามที่ใครสามารถเผา (burn) มูลค่า Luna หนึ่งดอลลาร์เพื่อสร้าง TerraUSD หนึ่งเหรียญ และในทางกลับกัน คุณสามารถแลก TerraUSD หนึ่งเหรียญเป็น Luna มูลค่าหนึ่งดอลลาร์ได้ ตราบใดที่ Luna มีมูลค่าตลาดอยู่บ้าง คุณสามารถเก็งกำไรกับระบบเพื่อสร้างเหรียญและแลกเหรียญ Stablecoin ได้”

“ในกรณีเกิดเหตุการณ์ตรึงเหรียญล้มเหลว (de-pegging) ตัวอย่างเช่น TerraUSD ซื้อขายที่ $0.90 นักเก็งกำไรสามารถซื้อ TerraUSD จากตลาดเปิด แล้วแลกเปลี่ยนกับโปรโตคอลเพื่อแลก Luna ที่มีมูลค่า $1 ดอลลาร์ จะทำให้ได้รับ 10% จากการเก็งกำไรด้วยวิธีนี้ และในทางกลับกัน หาก TerraUSD เคยซื้อที่ $1.10 คุณสามารถซื้อ Luna ที่มีมูลค่าเป็นดอลลาร์จากตลาดเปิดได้ การสร้าง TerraUSD แล้วขายสิ่งนั้นเพื่อทำกำไร 10% ในอีกด้านหนึ่ง”

การตรึงเหรียญดังกล่าวนั้น องค์กรไม่แสวงหากำไรในสิงคโปร์ที่ชื่อว่า Luna Foundation Guard หรือ LFG ได้ระดมทุนจำนวนมหาศาล ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของ Bitcoin เพื่อทำหน้าที่เป็น “ทุนสำรองอัตราแลกเปลี่ยน” สำหรับ UST

ในเดือนกุมภาพันธ์ The Block รายงานว่า LFT ได้ระดมทุน $1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสำรอง Bitcoin สำหรับ UST ในเดือนมีนาคม คุณ Do Kwon เปิดเผยว่า ได้เพิ่มจำนวนเป็น $2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการสำรอง Bitcoin และมีเป้าหมายระยะยาวที่ $10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนเมษายน โดยเพิ่มโทเคน AVAX มูลค่า $100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโทเคน AVAX มูลค่า $231 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม LFG กล่าวว่าได้ซื้อ Bitcoin มูลค่า $1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ยอดสำรองอยู่ที่ $3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

พังทลาย

ต่อมา มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ ทำให้มีการเทขาย UST จำนวนมาก นักวิจัยคริปโต Mika Honkasalo อธิบายใน The Scoop ล่าสุด ข้อมูลภายในเครือข่ายพบว่า “มีการขาย UST จำนวนมาก เมื่อเทียบกับ Stablecoin อื่น ๆ”

แรงเทขายดังกล่าวทำให้ UST สูญเสียความเท่าเทียมกับดอลลาร์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ในเดือนพฤษภาคมปี 2021 ราคา UST เคยลดลงแตะ $0.96 มาก่อนแล้ว ก่อนฟื้นตัวกลับมา

ทว่าเมื่อวันจันทร์ ราคาร่วงลงไปแตะต่ำสุด $0.60 ขณะที่ LFG พยายามเสนอแผนสร้างเงินสำรองเพื่อตรึงเหรียญเอาไว้

ช่วงเช้าตรู่ต่อมา ในวันอังคาร Binance ระงับการถอน Luna และ UST

ต่อมา Stablecoin นี้ กลับมาแตะ $0.90 อีกครั้ง

จากนั้น The Block รายงานว่า LFG แสงหาเงินเพิ่มอีก $1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนคริปโตรายใหญ่ ต่อมาในวันอังคารราคาเริ่มร่วงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ร่วงตกลงมาอยู่ที่ประมาณ $0.30

เมื่อวันพุธ หนึ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุดระดับบิ๊กโฟร์ ในเกาหลีใต้ได้ระงับการซื้อขาย Luna แก่ผู้ใช้งาน ส่งผลต่อเทรดเดอร์บางส่วนของ

ขณะที่ Anchor โทเคน DeFi ของแพลตฟอร์ม Anchor Protocol ร่วงมากกว่า 70% ในเวลาต่อมา ก่อน UST ล่มสลาย ซึ่ง Anchor นั้นเสนอให้ผลตอบแทน 19.5% ให้กับผู้ให้กู้ UST บนแพลตฟอร์ม 

ทำไมมันสำคัญ

เมื่อวันพุธ คุณ Do Kwon ได้วางแผนช่วยให้ UST กลับมาตรึงมูลค่าเท่าเทียมกับดอลลาร์อีกครั้ง รวมถึงแผนเพิ่มอุปทานจากผู้ถือครองที่ขายมันออกไป การเพิ่มการสร้าง Luna ขึ้น 400% เพื่อให้ผู้ถือครอง UST ถอนเงินออกมาขึ้น และเพิ่มจำนวน UST ที่สามารถขายให้กับ Luna ได้ในแต่ละวัน 

การพังทลายได้ทิ้งความไม่แน่นอนและความดระแวงไว้จำนวนมาก

ไม่ชัดเจนว่ามันจะฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง น้อยกว่าความไว้วางที่จำเป็นเพื่อความยั่งยืน

นอกจากนั้น ผลกระทบจะมีผลกระทบอย่างมากต่อคริปโตเคอร์เรนซีแล้วและยังส่งต่อ DeFi ในวงกว้าง อย่างแรกเลย วิธีการ Terra ที่ใช้กับ Stablecoin นั้นใช้ได้อีกหรือไม่? แพลตฟอร์มเลเยอร์ 1 ได้แก่ Tron และ Near Protocol มีแผนดำเนินการออกแบบคล้ายคลึงกัน เป้าหมายสูงสุดคือการสร้าง Stablecoin แบบกระจายศูนย์อย่างแท้จริง ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน

เมื่อพูดถึงหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน หากพวกเขาไม่สนใจเทรนด์นี้มาก่อน ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว การไต่สวนของวุฒิสมาชิกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Janet Yellen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้พาดพิงถึง UST ในขณะที่ขอให้สภาคองเกรสผ่านกฎหมายกำกับควบคุม Stablecoin อีกครั้ง

“ฉันคิดว่านี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน” รัฐมนตรีฯ กล่าว

แหล่งข่าว -> theblockcrypto.com

แบ่งปันให้เพื่อน :

Related news

Follow us

LATEST NEWS

COMMUNITY

Metaverse Jobs Thailand

(หา สมัครงาน เมตาเวิร์ส)

Metaverse Thailand

(Metaverse Thailand)

Blockchain Engineer

(Blockchain Engineer)

WEB 3.0 Thailand

(WEB 3.0 Thailand)

OpenChat Thailand

(OpenChat Thailand)