เทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ เช่น เทคโนโลยีที่ผสมผสานความเป็นจริงทางกายภาพกับโลกดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน (Extended Reality หรือ XR), บล็อกเชน (Blockchain), ฝาแฝดในโลกดิจิทัล (Digital Twin)และ การประมวลผลข้อมูลให้แสดงผลเร็วใกล้เคียงกับความเร็วของเครือข่ายมากที่สุด(Edge Computing) จะวางรากฐานสำหรับการสร้าง metaverse ระดับองค์กร สร้างประสบการณ์เชิงโต้ตอบแบบใหม่ และส่งเสริมการบูรณาการของโลกทางกายภาพและเสมือนต่อไป ตามรายงานใหม่ล่าสุด ที่เผยแพร่โดย Accenture บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก
บริษัทได้สำรวจธุรกิจและผู้นำด้านเทคโนโลยีมากกว่า 4,600 เเห่ง ใน 35 ประเทศ รวมถึงผู้บริหารธุรกิจชาวจีนกว่า 150 ราย ในปัจจุบัน เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริหารชาวจีนที่ให้สัมภาษณ์เชื่อว่า metaverse จะส่งผลดีต่อองค์กรของพวกเขา และอีก 60 เปอร์เซ็นต์คาดว่า metaverse จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อน
หนึ่งในศัพท์มาแรงมากในวงการเทคโนโลยีอย่าง เมต้าเวิร์ส ที่คาดว่าในอนาคตทั้งโลกเสมือนจริงและโลกทางกายภาพจะเชื่อมต่อกันจนแยกไม่ออก ซึ่งเป็นแนวความคิดของเมต้าเวิร์สที่เกี่ยวข้องกับการแชร์สภาพแวดล้อมเสมือนจริงให้ใช้งานร่วมกันในพื้นที่ดิจิตอลที่สร้างขึ้นมา ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยี VR (Virtual Reality)และ AR (Augmented Reality)
รายงานดังกล่าว กล่าวว่า metaverse กำลังจะมาปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของระบบอินเทอร์เน็ต และหลายบริษัทที่มองการณ์ไกลได้เริ่มสร้างพื้นที่โลกเสมือนจริงที่จะมาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลนี้ จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนและการพัฒนาธุรกิจในทศวรรษหน้า
คุณ Jia Jin กรรมการผู้จัดการของ Accenture หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของ Accenture ของ Greater China กล่าวว่าเมต้าเวิร์ส เป็นการสังเคราะห์เทคโนโลยีหลายอย่าง ได้เเก่ ประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing), ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence), ความเป็นจริงแบบผสมผสานหลายมิติ (Extended Reality), บล็อกเชน (Blockchain), การประมวลผลเทียบเท่าความเร็วของเครือข่าย และ IoT (Internet of Things) ด้วยการใช้งานที่หลากหลาย การเพิ่มการเชื่อมต่อโลกทางกายภาพและเสมือนจริงจะสามารถสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ได้อย่างมากมาย
คุณ Jia เสริมอีกว่าการเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล การคำนวณเชิงควอนตัม ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ และ
การประมวลผลนำข้อมูลชีววิทยามาใช้งาน (biology-inspired computing)
ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเมต้าเวิร์ส พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วย
รายงานดังกล่าว กล่าวว่า metaverse และ Web3 (รูปแบบใหม่ของ Web โดยใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน) พร้อมที่จะเปลี่ยนโฉมอินเทอร์เน็ต มากกว่าที่จะเป็นการรวบรวมเว็บไซต์และแอพที่แตกต่างกัน เมื่อมองไปข้างหน้าเเล้ว metaverse จะนำไปสู่สภาพแวดล้อม 3 มิติแบบถาวร โดยย้ายจาก “ที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง” จะง่ายพอๆ กับการเดินจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งเลยที่เดียว
ขณะที่ เทคโนโลยีพัฒนาใหม่ อย่างเช่น 5G, การคำนวณโดยรอบ(Ambient Computing), VR (Virtual Reality) และวัสดุอัจฉริยะ เริ่มมีความก้าวหน้า พร้อมที่จะสามารถทำให้สภาพแวดล้อมทางดิจิทัลจะถูกถักทอขึ้นสู่โครงสร้างของโลกทางกายภาพของเรามากขึ้น
ในรายงานมีการสรุปเอาไว้ว่า ผู้บริหารชาวจีนประมาณ 88% ยอมรับว่าองค์กรชั้นนำจะผลักดันขอบเขตของโลกเสมือนจริงเพื่อทำให้สมจริงมากขึ้น โดยเพิ่มความเสถียรระหว่างโลกดิจิทัลและโลกทางกายภาพให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
แหล่งข้อมูล -> Chinadaily.com.cn