The Sandbox ซึ่งเป็น metaverse ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 โดยชาวฝรั่งเศสสองคนและได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัท Softbank ของญี่ปุ่น ราคาสำหรับอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง แข่งขันกับอสังหาริมทรัพย์ในปารีส ลอนดอน หรือฮ่องกง Bored Ape Yacht Club มีลิงเสมือนจริง (Bored Ape) กว่า 10,000 ตัวที่ไม่เหมือนใคร นั้นทำให้บริษัท Bored Ape Yacht Club สามารถสร้างรายได้กว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในการซื้อขาย โดยล่าสุดนักร้องชื่อดังอย่าง จัสติน บีเบอร์, ปารีส ฮิลตัน, Snoop Dogg และ Eminem ต้องยอมจ่ายต่อความนิยมและซื้อลิงเป็นของตัวเอง
โดยลิงตัวหนึ่งขายได้ในราคา 3.4 ล้านดอลลาร์ในการประมูลของ Sotheby เมื่อปีที่แล้ว Metaverse ไม่มีอะไรมากไปกว่า “พื้นที่สำหรับคนรวย” ที่สงวนไว้สำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ร่ำรวยเฉพาะบางกลุ่ม ไม่ว่าในกรณีใด มันได้กลายเป็นลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ใหม่สำหรับ Facebook (ปัจจุบันคือ Meta) และ Microsoft
ในชีวิตจริงเราไม่สามารถไปพิพิธภัณฑ์ฟรีได้ เราก็จะทำใน Metaverse ไม่ได้เช่นกัน
METAVERSE คือจุดจบของอินเตอร์เน็ตฟรีจริงหรือ
คำถามนี้จำเป็นเพราะ metaverse นำเสนอแนวคิดสองประการที่ยังไม่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต ความหายากและความเป็นเจ้าของ ใน Metaverse ผู้ใช้สามารถเล่นวิดีโอเกม เข้าร่วมเซสชันการทำงานเป็นอวาตาร์ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง และเข้าร่วม “คอนเสิร์ต” The Sims (2000) และ Second Life (2003) เป็นทั้งตัวอย่างของ metaverse ยุคแรก ความแปลกใหม่ใน metaverses ในปัจจุบันคือความสามารถในการเป็นเจ้าของสินค้าเสมือนจริงที่สามารถซื้อหรือขายบนแพลตฟอร์มเช่น OpenSea สิ่งเหล่านี้คือ NFT ซึ่งอนุญาตให้รับรองความเป็นเจ้าของและเอกลักษณ์ของสินค้าเสมือนจริง

แน่นอน ไม่ใช่ว่า NFT ทั้งหมดจะพุ่งสูงขึ้นถึงระดับเดียวกับ Bored Ape ใน Decentraland มี Metaverse อีกชุดหนึ่งในปี 2015 ซึ่งเป็นไอเทมปรับแต่งอวาตาร์ที่พบบ่อยที่สุด – หูกระต่ายหรือปีกนางฟ้า – ขายในราคาต่ำกว่าหนึ่งมานา (Mana) หรือ 2.81 ดอลล่าสหรัฐฯ นอกจากนี้ แบรนด์ต่างๆ ยังสามารถสร้างความภักดีของลูกค้าได้โดยการจัดหา NFTs ให้กับพวกเขา อย่างไรก็ตามประสบการณ์ฟรีทั้งหมดนั้นหายาก
คนทุกคนต้องมีสิทธิ์เข้าถึงได้
ลุค โจเดต์ กล่าวว่า “ตอนนี้ Metaverse เป็นพื้นที่สำหรับคนรวย ซึ้งมันใช้เงินเป็นจำนวนมาก” เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Arianee ซึ่งเป็นโปรโตคอลบล็อคเชนที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบสินค้าหรูหราและแฟชั่นได้ Bored Ape กับ Lamborghini นั้นไม่ต่างกัน เพราะสำหรับหลายๆ คนแล้ว NFTs เป็นเครื่องประดับที่บ่งชี้ความมั่งคั่ง ไม่ใช่แค่ผลจากการเก็งกำไร
โลกที่หรูหรารับรู้ได้อย่างรวดเร็วถึงความดึงดูดใจของ metaverse สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ หมายถึงการกำหนดเป้าหมายกลุ่ม Gen Z ซึ่งใช้เวลาเล่นวิดีโอเกมมากกว่าโซเชียลมีเดีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 70 แบรนด์ตั้งแต่ Dolce & Gabbana ถึง Etro ได้เข้าร่วมงาน ‘Metaverse Fashion Week’ ของ Decentraland โปรแกรมรวมถึงแฟชั่นโชว์พร้อมอวตาร การนำเสนอคอลเลกชัน NFT ใหม่และการเปิด “ร้านค้า” ทุกอย่างเกิดขึ้นที่ “ย่านแฟชั่น” ซึ่งจำลองตามถนน Avenue Montaigne ในชีวิตจริงในปารีส

ลุค โจเดต์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ตราบใดที่ Metaverse ยังคงเป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับคนรวย มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นจริงและมันจะตายไปในไม่ช้า มันจะต้องดึงดูดผู้คนทั่วไป ความสามารถในการเป็นเจ้าของสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ตจะเป็นการปฏิวัติครั้งสำคัญ น่าเสียดายหากถูกจำกัดให้อยู่เพียงส่วนน้อยของประชากรที่สามารถซื้อ NFT ได้”
การกระจายความเทียมกันใน metaverse จะเป็นการการรณรงค์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่กำลังจะมีขึ้นในไม่นาน และอาจเป็นสัญญาณการนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้อย่างจริงจัง
อ้างอิง : worldcrunch