ในเดือนตุลาคม 2021 Facebook ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Meta ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในการเป็นบริษัทผู้พัฒนาเมต้าเวิร์ส (Metaverse) ภายใน 5 ปีนี้ โดยปัจจุบันนี้มีบริษัทใหญ่ ๆ มากมายที่มีแผนการสร้างเมต้าเวิร์สของตัวเอง เช่น Microsoft, Nvidia และ Google แม้แต่แบรนด์สินค้าอย่าง Nike ไปจนถึงธนาคารอย่าง HSBC ยังเผยว่าพวกเขาจะเข้าสู่เมต้าเวิร์สและขาย NFTs ซึ่งในรายงานของ Citi ได้ประเมินมูลค่าการตลาดของเมต้าเวิร์สว่ามีมากถึง 13 ล้านล้านเหรียญเป็นอย่างน้อย
แต่สตาร์ทอัพที่อยากมีบทบาทในเมต้าเวิร์สนั้นต้องทำอย่างไร เพื่อหาคำตอบเหล่านั้นเราจะต้องมาดูกันว่าสตาร์ทอัพทั้งหลายที่อยากเข้าถึงเมต้าเวิร์สนั้นได้ใช้ช่องทางใดในการเข้ามา โดยมีตัวอย่างของสตาร์ทอัพกว่า 50 รายที่ระดมทุนรวมกันกว่า 3.5 พันล้านเหรียญ มาเป็นตัวอย่างว่ามีช่องทางใดในการเข้าถึงเมต้าเวิร์สกันบ้าง ซึ่งมีทั้งหมด 7 ช่องทางดังต่อไปนี้
1.การค้าปลีก
จากร้านค้าเสมือนจริงภายใน Roblox และ Sandbox ไปจนถึง NFTs ด้วยการเก็บคะแนนหรือปลดล็อกผลิตภัณฑ์ทางกายภาพแบบจำกัด หลายแบรนด์ดังจึงได้สํารวจการค้าปลีกรุ่นต่อไป สตาร์ทอัพที่ให้บริการอํานวยความสะดวกในการค้าที่ปลอดภัยและเข้ามาปรับปรุงระบบเพื่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ในการปลดล็อกการค้าบนเมต้าเวิร์ส ซึ่งรวมถึง NFTs ยูทิลิตี้กระเป๋าเงินคริปโต การจัดการข้อมูลประจําตัวการตรวจจับการฉ้อโกงและอื่น ๆ อีกมากมาย
2.ผู้สร้างระบบเศรษฐกิจ
หัวใจหลังของผู้สร้างระบบเศรษฐกิจคือบุคคลที่สร้างเนื้อหาและสร้างรายได้ กระบวนการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพยังคงเป็นแบบปกติและมักจะนำไปสู่ความเหนื่อยหน่าย เครื่องมือที่ช่วยให้ผู้สร้างสามารถสร้างเนื้อหาแบบอัตโนมัติ แจกจ่าย และสร้างรายได้จากเนื้อหาได้ง่ายขึ้น แสดงถึงขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างเมต้าเวิร์ส สตาร์ทอัพที่สร้างเครื่องมือรุ่นต่อไปสำหรับครีเอเตอร์เพื่อสร้างชุมชนและขายสินค้าเสมือนจริง หลักสูตร และ NFTs เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น โทเค็นทางสังคม ตลาดกลาง NFT และ DAO ที่ช่วยให้ผู้สร้างมีส่วนร่วมกับชุมชนของพวกเขาถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่
3.เทคโนโลยีอวาตาร์
แม้ว่าเราจะยังห่างไกลจากการตระหนักถึงวิสัยทัศน์ของเมต้าเวิร์สอีกเกือบสิบปี แต่ก็ชัดเจนว่าอวาตาร์จะยังคงมีบทบาทสำคัญในโลกเสมือนจริง ทั้งในกรณีการใช้งานสำหรับผู้บริโภคและองค์กร บริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งกำลังดำเนินการปรับปรุงเทคโนโลยีอวาตาร์อย่างมากมายตั้งแต่โซลูชัน 2 มิติ เช่น วิดีโอสังเคราะห์ไปจนถึงฟิลเตอร์ AR แบบเรียลไทม์ที่แปลงบุคคลให้กลายเป็นตัวโคลนแบบดิจิทัล ตัวอย่างเช่น HourOne เป็นแพลตฟอร์มการสร้างวิดีโอสังเคราะห์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างวิดีโอคุณภาพสูงโดยอิงจากตัวละครเสมือนจริงหรือภาพเคลื่อนไหว ด้วยการพิมพ์ข้อความ
4.แฟชั่นเสมือนจริง
นักวิเคราะห์บางคนอ้างว่าเมต้าเวิร์สนั้นจะมีมูลค่า 8 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการซื้อสินค้าเสมือนจริง
ภายในนั้น แฟชั่นเสมือนจริงจะมีตั้งแต่สกินในเกมไปจนถึงเสื้อผ้าอวตารสุดหรูหรือแฟชั่น โดย NFT นั้นมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้แบรนด์สร้างความพิเศษเฉพาะตัวทางออนไลน์และสร้างงรายได้จากการออกแบบของพวกเขา
5.งานโครงสร้างพื้นฐาน
สัญญาอัจฉริยะแบบ on-chain, off-chain, Zero-trust นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบโครงสร้างพื้นฐานบนเมต้าเวิร์ส บริการ Web2 จำนวนมากที่ทำงานเพื่อการชำระเงิน การรักษาความปลอดภัย หรือการจัดเก็บกำลังได้รับการคิดค้นใหม่สำหรับเนื้อหา Web3, crypto และ 3-D มีโอกาสมากมายสำหรับนวัตกรรมในการสร้าง Web3 และกลุ่มเทคโนโลยีเมต้าเวิร์สในอนาคต ตัวอย่างเช่น Echo3D ที่เป็น CDN และ CMS สำหรับเนื้อหา 3 มิติที่ขับเคลื่อนเกม การค้าปลีก และนักพัฒนา AR/VR ที่ต้องการจัดการเนื้อหา 3 มิติของพวกเขาข้ามแพลตฟอร์มได้อย่างราบรื่น
6.เกม
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเล่นเกมกลายเป็นรูปแบบความบันเทิงอันดับต้นๆ สำหรับชาวอเมริกันอายุต่ำกว่า 50 ปี รายงานจาก Gartner, Inc. ประมาณการว่าผู้คนจะใช้เวลา 1.5 ชั่วโมงต่อวันในเมต้าเวิร์ส แต่ความแตกต่างระหว่างเกมบนมือถือในปัจจุบันกับเกมบนเมต้าเวิร์ส คือ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โมเดลที่เล่นเพื่อหารายได้ช่วยเพิ่มการรักษาผู้เล่น เนื่องจากผู้เล่นสามารถรับเงินดิจิทัลจากการมีส่วนร่วมและลดต้นทุนในการได้มาซึ่งผู้ใช้โดยการสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งเพื่อดึงดูดผู้ใช้ใหม่ผ่านการบอกต่อ
เช่นเดียวกับการเล่นเกมบน Facebook ในช่วงแรกๆ โลกเสมือนจริง เช่น Sandbox, Decentraland, Horizons, Omniverse, Roblox เป็นต้น สามารถกลายเป็นพื้นที่สำหรับนักพัฒนาเกมในการสร้างแพลตฟอร์มต่อไป ตัวอย่างเช่น เราลงทุนใน RebelBots สตูดิโอเกมเข้ารหัสที่ระดมทุนเพื่อการพัฒนาเกมโดยการขายตัวละครล่วงหน้าเป็น NFT
7.งานด้านความบันเทิง
ตั้งแต่เทศกาลดนตรีเสมือนจริงที่คนดูหลายแสนคนพร้อมกันบน Fortnite ไปจนถึงการท่องเที่ยวเสมือนจริงแบบ VR พื้นที่แห่งความบันเทิงกำลังจะถูกสร้างขึ้นมาบนเมต้าเวิร์ส ลองนึกภาพว่าประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้จะดียิ่งขึ้นเพียงใด โดยเปลี่ยนจาก 2 มิติเป็นความบันเทิงสดทางสังคมที่สมจริง ผู้ใช้สามารถซื้อที่นั่งที่ดีที่สุดในบ้านสำหรับการแข่งขันกีฬา เดิมพันผลการแข่งขัน และแลกเปลี่ยน NFT ของกลุ่มแฟน ๆ ของพวกเขาตามปกติ สตาร์ทอัพด้านความบันเทิงที่ให้คุณค่า เช่น การฝึกอบรมหรือการศึกษา ผ่านเนื้อหาหรือกลไกการส่งมอบ อาจถูกนำไปใช้อย่างรวดเร็ว โดยรวมแล้ว เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการสร้างเมต้าเวิร์ส เรายังตกลงกันไม่ได้ว่าคำนี้หมายถึงอะไร แต่ปริมาณกับระดับของความสามารถและเงินทุนที่เข้าสู่พื้นที่อย่างแท้จริงทำให้มั่นใจได้ว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไป เป็นที่แน่ชัดว่าสตาร์ทอัพจะมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอวิสัยทัศน์ของอินเทอร์เน็ตแบบกระจายศูนย์และฟรีในอนาคต
แหล่งข่าว -> forbes.com