อภิธานศัพท์ Metaverse โดยย่อนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายโลก Metaverse โดยรวมทั้งหมดได้มากขึ้น

อภิธานศัพท์ Metaverse โดยย่อนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายโลก Metaverse โดยรวมทั้งหมดได้มากขึ้น

จักรวาลนฤมิต (Metaverse) เป็นวิวัฒนาการยุคต่อไปของอินเทอร์เน็ตอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะมองว่าคืออนาคต แต่ Metaverse ก็มาถึงแล้ว ในปีหน้า Metaverse มีศักยภาพที่แท้จริงในการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจและแม้แต่เรื่องวิธีการที่มนุษย์โต้ตอบปฏิสัมพันธ์ต่อกัน เทคโนโลยียุคใหม่นี้มาพร้อมกับคำศัพท์ใหม่ ๆ มากมายที่อาจไม่ชัดเจนนัก การทำความรู้จักและที่สำคัญกว่านั้น การเข้าใจคำศัพท์ของ Metaverse จะมีความสำคัญต่อธุรกิจมาก รวมถึงพวกเขาจะประเมินวิธีการการใช้กลยุทธ์ Metaverse อภิธานศัพท์ฉบับย่อนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายทั้งหมดได้ดีขึ้น

สารบัญคำศัพท์

1. Metaverse Experiences

2. Immersive Avatars vs Traditional Avatars

3. Digital Twins

4. Mirrorworlds

5. Persistant Virtual Worlds

6. Portals

7. Digital Holograms

8. Teleporting

9. Telepresence

10. Social Immersion

11. Ready Player One

12. Snow Crash

13. Virtual Reality (VR)

14. Augmented Reality (AR)

15. Mixed Reality (MR)

16. Extended Reality (XR)

17. 3D Engines

18. Graphics Processing Units (GPUs)

19. Spatial Audio

20. Decentralization

21. Blockchain

22. Low Code Platform

23. Open Platforms vs Closed Platforms

24. Walled Garden

25. Public vs Private Cloud

26. NFTs

27. Digital Goods

28. Web3 / Web 3.0

29. Massively multiplayer online role-playing game (MMORPG)

1. ประสบการณ์เมตาเวิร์ส (Metaverse Experiences)

ประสบการณ์ของคุณในเมตาเวิร์สขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณมีส่วนร่วมกับประสบการณ์ทางสังคม เกม เวิร์กช็อป ปาร์ตี้ หรือคอนเสิร์ต เนื่องจากเมตาเวิร์สเป็นรูปแบบ 3 มิติ คุณจะเคลื่อนที่ผ่านมันแทนที่แค่เลื่อนไปบนหน้าจอ

2. อวตารสมจริง (Immersive Avatars) vs อวตารแบบดั้งเดิม (Traditional Avatars)

Immersive Avatars เป็นตัวแทน 3 มิติของผู้ใช้งานและเป็นตัวตนของคุณในโลกเสมือนจริง ผู้ใช้งานเองจะสร้างอวตารส่วนตัวที่สามารถโต้ตอบกับคนอื่น ๆ และกับแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สได้

Traditional avatars ใน web 2.0 มักเป็นไอคอนที่เป็นตัวแทนของผู้ใช้งานในฟอรัม พวกเขาไม่สามารถโต้ตอบหรือเคลื่อนไหวแทบทุกกรณีได้

ในอีกแง่หนึ่ง Immersive Avatars นั้น เป็นแบบอินเทอร์แอคทีฟเชิงโต้ตอบ นั่นหมายความว่าสามารถพูด เคลื่อนไหว เต้นรำ หรืออื่น ๆ ในโลกเสมือนจริงได้

3. ฝาแฝดดิจิทัล (Digital Twins)

วัตถุที่สมจริงในเมตาเวิร์สซึ่งเป็นตัวแทนของสิ่งต่าง ๆ ในโลกจริง หรือสิ่งที่สร้างขึ้น 

4. โลกคู่ขนาน (Mirrorworlds)

เวอร์ชันดิจิทัลของโลกแห่งความเป็นจริงที่แสดงผลเสมือนสมมูลถึงคน สถานที่ และสิ่งต่าง ๆ

5. โลกเสมือนจริงคงทน (Persistant Virtual Worlds)

แนวคิดที่ว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลยังคงมีอยู่และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่มีใครโต้ตอบกับแพลฟอร์มดังกล่าวก็ตาม

6. พอร์ทัล (Portals)

จุดเชื่อมต่อที่เชื่อต่อสภาพแวดล้อมเสมือนจริงต่าง ๆ ที่กระจายในแพลตฟอร์มหรือเมตาเวิร์สเดียวกัน

7. ฮอโลแกรมดิจิทัล (Digital Holograms)

การทำสำเนาโฮโลแกรม ซึ่งเป็นการฉายภาพเสมือนจริงของบุคคล สถานที่ หรือวัตถุ ภายในพื้นที่เสมือนจริง วัตถุนี้มักจะเป็นภาพ 3 มิติ และสามารถดูได้ทุกด้าน นั่นหมายความว่าภายในเมตาเวิร์สนั้น อวตารสามารถเดินวนไปวนมาได้ และในหลายกรณีจะมีปฎิสัมพันธ์กับวัตถุนั้นได้

8. เทเลพอร์ตติ้ง (Teleporting)

ความสามารถในการเคลื่อนย้ายข้ามพื้นที่หรือไปยังตำแหน่งเสมือน (หรือทางกายภาพ) จากระยะไกลได้ทันที ในเมตาเวิร์สสิ่งนี้มักจะเกิดขึ้นผ่านเทคโนโลยี AR หรือไม่ก็ VR

9. การปรากฏทางไกล (Telepresence)

การรู้สึกของการอยู่ในที่ต่าง ๆ ที่พวกเขาไม่ได้อยู่จริง สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้งานปรากฏอยู่หรือรู้สึกว่าเกิดขึ้นจริง

10. หมกมุ่นทางสังคม (Social Immersion)

ประสบการณ์เมตาเวิร์สที่กระตุ้นและสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การหมกมุ่นทางสังคมหรือการเข้าสังคมเต็มรูปแบบเป็นหนึ่งในวิวัฒนาการหลักของ Web 3.0

11. สงครามเกมคนอัจฉริยะ (Ready Player One)

นวนิยายไซไฟดิสโทเปียเขียนบทโดย Ernest Cline เหตุการณ์ในปี 2045 เมื่อโลกกำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อนและวิกฤติพลังงานที่รุนแรง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสังคมและวิกฤติเศรษฐกิจใหญ่หลวง

ในนวนิยายนั้น คนจะหลีกหนีโลกแห่งความเป็นจริงเข้าไปใน VR “Metaverse” ที่เรียกว่า OASIS

คนทั่วไปจึงอาจจินตนาการได้ว่า เมตาเวิร์ส ควรมีหน้าตาเป็นอย่างไรได้จากหนังสือและภาพยนตร์ยอดนิยมเรื่องนี้

12. Snow Crash

แหล่งที่มาดั้งเดิมของคำว่า ‘Metaverse’ มีต้นกำหนดในนวนิยายไซไฟปี 1992 โดย Neal Stephenson เขาอธิบายว่ามันเป็นวิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ตที่ใช้ VR โดย Snow Crashนำเสนอ Metaverse ที่มนุษย์โต้ตอบเป็นอวตารในพื้นที่เสมือนจริง 3 มิติ

13. ความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality, VR)

มักย่อเป็น VR ความเป็นจริงเป็นประสบการณ์เสมือนจริงที่ใช้ชุดหูฟังดิจิทัล ชุดหูฟัง VR ให้ผู้ใช้งานได้มุมมอง 360º ในโลกเสมือนจริงที่พวกเขาสามารถเข้าไปข้างในและโต้ตอบได้

14. ความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality, AR)

ภาพซ้อนทับดิจิทัลที่ฉายในโลกแห่งความจริง ตัวอย่างที่ดีของ AR คือ เกม Pokemon Go ของ Niantic

15. ความเป็นจริงผสม (Mixed Reality, MR)

MR เป็นประสบการณ์เสมือนจริงที่รวมเอาองค์ประกอบของความเป็นจริงเสมือนและความเป็นจริงผสม และให้ผู้ใช้งานโต้ตอบกับวัตถุเสมือนจริงและในโลกความเป็นจริงในแบบเรียลไทม์

16. ความเป็นจริงขยาย (Extended Reality, XR)

XR เป็นการรวมกันของเงื่อนไข ‘ความเป็นจริง’ ทั้งหมด ทั้ง VR, AR และ MR เมื่อเวลาผ่านไป คำศัพท์แต่ละคำจะเริ่มผสมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทคโนโลยีวิวัฒนาการ Metaverse เริ่มก่อตัวขึ้น

17. เอ็นจิ้นสามมิติ (3D Engines)

นี่คือซอฟต์แวร์ที่สร้างและเปิดใช้งานกราฟฟิก 3 มิติ ที่ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบภายในโลกเสมือนจริง 3D Engines ชั้นนำ ได้แก่ บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Unity และ Epic Games

Virtway ได้สร้าง 3D Engine ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง

18. หน่วยประมวลผลกราฟฟิก (Graphics Processing Units, GPUs)

GPU เป็นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่เชี่ยวชาญในการผลิตกราฟิกและการเรนเดอร์วิดีโออย่างสร้างสรรค์ ช่วยให้โปรแกรมเมอร์สร้างเอฟเฟกต์ภาพที่น่าดึงดูดและฉากที่สมจริง เพื่อเรงการเรนเดอร์กราฟิก 3 มิติ ทำให้เป็นผู้เล่นหลักในการทำให้ Metaverse เป็นไปได้จริง

19. เสียงเชิงพื้นที่ (Spatial Audio)

Spatial audio เสียงรอบทิศทางเป็นเอฟเฟกต์เสียงเซอร์ราวด์ที่ให้ผู้ใช้รู้สึกว่าเสียงเป็นแบบ 3 มิติ

ภายในโลกเสมือนจริง ผู้ใช้งานจะสามารถตรวจจับได้ว่าเสียงมาจากที่ใดในสภาพแวดล้อมแบบ 360 องศา เสียงนี้ยังอิงตามระยะทาง ซึ่งหมายความว่ายิ่งผู้ใช้งานเข้าใกล้เสียงมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดังขึ้น และในทางกลับกัน ยิ่งพวกเขาออกจากแหล่งกำเนิดเสียงมากเท่าไหร่ พวกเขาจะได้ยินน้อยลงเท่านั้น

20. การกระจายศูนย์ (Decentralization)

นี่คือสิ่งที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศไปสู่โครงสร้างที่ไม่ได้รับอนุญาต และเปลี่ยนการควบคุมและอำนาจไปสู่โครงสร้างที่กระจายศูนย์และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

21. บล็อกเชน (Blockchain)

บล็อกเชนเป็นโครงสร้างที่ช่วยให้สามารถสร้างบัญชีแยกประเภทข้อมูลดิจิทัลได้ บัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์นี้ใช้การเข้ารหัสเพื่อยืนยันและดำเนินการธุรกรรม

Bitcoin และ Ethereum เป็นบล็อคเชนแรกๆ

22. Low Code Platform

แทนที่จะต้องเขียนโค้ดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยมือ Low Code Platforms ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างซอฟต์แวร์แอพพลิเคชันผ่านอินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบวิชวลได้

WordPress เป็นตัวอย่างที่ดีของ low code platform.

23. แพลตฟอร์แบบเปิด (Open Platforms) vs แพลตฟอร์มแบบปิด (Closed Platforms)

Open Platforms อนุญาตให้ผู้ใช้งานปรับแต่ง แก้ไข และปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการทำงานบางอย่างของซอฟต์แวร์เพื่อให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะตัว Open software เป็นระบบเปิดและอนุญาตให้ผู้สร้างพัฒนาเนื้อหาได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังช่วยให้บุคคลที่สามสามารถผสานรวมกับแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการทำงานได้

ตรงกันข้ามกับ Closed Platform หรือ Walled Garden ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่อนุญาตให้คุณรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ประโยชน์ของ Closed Platforms ได้แก่ การรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ฟังก์ชันการทำงานสูง และการสนับสนุนเพิ่มเติมในนามของผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม

24. Walled Garden

Walled Garden คล้ายกับ Closed Platform เป็นระบบนิเวศปิดที่ควบคุมการดำเนินการทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในระบบดังกล่าว ใน Metaverse จะถูกมองว่าเป็นโลกเสมือนจริงหรือโดเมนที่แยกจากกัน ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานสร้างคอนเทนต์ภายใต้กฎเกณฑ์เฉพาะและด้วยเครื่องมือที่จัดเตรียมไว้

แพลตฟอร์ม web 2.0 ที่ใหญ่ที่สุดส่วนใหญ่เป็น Walled Gardens ตัวอย่างเช่น Facebook, Google และ Amazon

25. Public vs Private Cloud

Public Cloud คลาวด์สาธารณะเป็นบริการในระบบคลาวด์ที่เสนอให้กับลูกค้าหลายรายและทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลซึ่งจัดการโดยผู้ให้บริการ เป็นเรื่องปกติสำหรับบริการเกมและความบันเทิงที่จะนำเสนอในคลาวด์สาธารณะที่ ‘การควบคุม’ ค่อนข้างน้อย

Private Cloud คลาวด์ส่วนตัวเป็นบริการที่ไม่ได้ใช้ร่วมกับบริษัทหรือองค์กรอื่น ข้อดีคือการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้นซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด และบริษัทหรือองค์กรสามารถควบคุมได้มากขึ้นภายในระบบคลาวด์เหล่านี้

26. NFTs

Non-Fungible Token นั้น ไม่ซ้ำใคร (Unique) เป็นทรัพย์สินที่อิงกับบล็อคเชนซึ่งเป็นวิธีที่ระบุถึงความเป็นเจ้าของและมักใช้ใน metaverse NFTs เป็นตัวแทนของรายการต่างๆ เช่น ดิจิทัลอาร์ต อสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง หรือดนตรี

27. Digital Goods

นี่เป็นคำที่ใช้อ้างถึงสิ่งใดก็ตามที่ขายหรือโอนในรูปแบบดิจิทัลที่ไม่มีตัวตน ตัวอย่างเช่น ไฟล์มีเดียและเพลง ไฟล์วิดีโอ อีบุ๊ค แอพมือถือ หลักสูตรออนไลน์ ดิจิทัลอาร์ต เป็นต้น

สินค้าดิจิทัลยังสามารถเป็นสินค้าเสมือนจริงที่ใช้ในเกมออนไลน์และชุมชนภายในเศรษฐกิจของตน

28. Web3 / Web 3.0

Web 3.0 เป็นอินเทอร์เน็ตรุ่นต่อไป เป้าหมายของ Web3 คือการเชื่อมต่อและดึงดูดผู้ใช้งานในระดับที่มากขึ้น นี่คือที่มาของ Metaverse ที่สมจริง

Web 2.0 คือวิธีที่เรารู้จักอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน เว็บไซต์ 2D หรืออีคอมเมิร์ซที่เราเลื่อนดูและคลิกเพื่อโต้ตอบ

Web 3.0 จะนำผู้ใช้งานเข้าสู่เว็บไซต์และร้านค้าเหล่านี้ซึ่งผู้ใช้งานจะโต้ตอบกับเนื้อหาดิจิทัลเป็นอวตาร

29. Massively multiplayer online role-playing game (MMORPG)

MMORPG เป็นเกมแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ผู้คนหลายล้านคนเล่นและโต้ตอบกันในพื้นที่ที่ใช้งานร่วมกัน ตัวอย่างเช่น Minecraft และ Fortnite

แหล่งข่าว -> virtwayevents.com

แบ่งปันให้เพื่อน :

Related news

Follow us

LATEST NEWS

COMMUNITY

Metaverse Jobs Thailand

(หา สมัครงาน เมตาเวิร์ส)

Metaverse Thailand

(Metaverse Thailand)

Blockchain Engineer

(Blockchain Engineer)

WEB 3.0 Thailand

(WEB 3.0 Thailand)

OpenChat Thailand

(OpenChat Thailand)