หากมองย้อนกลับไปในสมัยอดีต มนุษย์สร้างหลุมหลบภัยมากมายเพื่อป้องกันตนจากภัยสงคราม แม้แต่ในปัจจุบัน ก็ยังมีหลายประเทศ ที่สร้างไว้เพื่อป้องกันอันตรายจากภัยธรรมชาติ หรือสงครามที่อาจจะเกินขึ้นในอนาคต หากจะตีความ คำว่าหลุมหลบภัยในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็อาจจะไม่ได้หมายถึงสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น แต่อาจจะหมายถึง ที่หลบซ่อนจากโลกแห่งความเป็นจริงที่แสนโหดร้าย เพราะผู้คนเลือกที่จะเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนหรือ Metaverse ที่ชื่อว่า “โอเอซิส” มากกว่าอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
ปี 2045 โลกกลายเป็นสถานที่ ที่เกินจะเยียวยาทั้งในด้านของเศรษฐกิจและสังคม ผู้คนต่างเลิกหวังที่จะให้สังคมดีขึ้นและประคองชีวิตไปวันๆ การเกิดขึ้นของ โอเอซิส จึงเปรียบเสมือนกับสวรรค์ เป็น Public sphere ที่ผู้คนสามารถมารวมตัวพบปะกัน ไม่ว่าคุณจะหน้าตาเป็นอย่างไร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ก็ไม่มีใครแคร์เพราะใน Metaverse แห่งนี้ คุณจะทำอะไรก็ได้ที่คุณอยากทำ หรือจะเป็นอะไรก็ได้ในสิ่งที่คุณอยากจะเป็น จะอยู่ที่ใดบนโลกก็สามารถมาเจอกันได้ใน “โอเอซิส” ดังนั้น เจมส์ ฮัลลิเดย์ จึงเป็นดังพระเจ้าที่ผู้คนต่างนับถือ
เขาสร้าง“โอเอซิส” ขึ้นในปี2025 “เพียงเพราะว่าเขานั้นกลัวโลกแห่งความเป็นจริง” ในเมื่อกลัวโลกแห่งความเป็นจริง ก็สร้างโลกขึ้นมาใหม่ซะเลย ซึ่ง“โอเอซิส”นั้นได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ผู้คนต่างใช้เวลาส่วนใหญ่ในนั้น มากกว่าในโลกแห่งความเป็นจริง หากมองผิวเผินแล้วอาจจะบอกได้ว่า “โอเอซิส”นั้นเป็นสถานที่ ที่มนุษย์ไว้ใช้ระบายกิเลสของตน เพราะในชีวิตจริงพวกเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ สุดท้ายแล้วต่อให้ Metaverse ที่ชื่อว่า “โอเอซิส” จะเป็นดั่งสวรรค์ยังไง มนุษย์ทุกคนก็ต้องพบกับความเป็นจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นก็คือ “การเกิด แก่ เจ็บ และตาย” คุณสามารถเกิดกี่ครั้งก็ได้ใน “โอเอซิส” บาดเจ็บก็แค่รักษา คุณตายก็แค่กลับไปเริ่มต้นใหม่ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงคุณไม่สามารถกลับไปเริ่มใหม่ได้อีก นั่นเป็นสิ่งที่ เจมส์ ฮัลลิเดย์ กำลังเผชิญอยู่ เขาเสียชีวิตในปี 2040 และได้ทิ้งมรดกก้อนโตเอาไว้ ในลักษณะของเกมส์ปริศนา ซึ่งมีทั้งหมด3เกมส์ด้วยกัน โดยแต่ละเกมส์จะมอบกุญแจ1ดอกให้กับผู้เล่นที่ชนะ เมื่อผู้ใดสะสมกุญแจครบ3ดอกก็จะเป็นผู้ชนะและได้รับไข่ทองคำ ที่ในนั้นประกอบไปด้วยทรัพย์สินของ ฮัลลิเดย์ ทั้งหมด แต่จนแล้วจนรอดผ่านไป5ปีก็ยังไม่มีผู้ใดไขปริศนาหรือพบกุญแจเลยซักคน ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีใครไขปริศนาออก แต่ของรางวัลชิ้นโตมักจะดึงดูดเหล่าผู้คนที่กระหายจากทุกสารทิศมารวมกันเพื่อล่าสมบัติ เช่นเดียวกับบริษัทที่ครองความเป็นอันดับสองตลอดการอย่าง ไอโอไอ หรือแม้แต่ พระเอกของเรื่องอย่าง เพอร์ซิวัลและเพื่อนของเขา เอช ไดโตะ และ โช รวมถึง อาทิมิส นางเอกของเรื่อง ก็ต่างมาเข้าร่วมเกมส์การแข่งขันนี้ และกลายเป็นผู้ชนะในที่สุดจนได้รับมรดกของ ฮัลลิเดย์ ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาลรวมถึงได้เป็นผู้ดูและระบบของ “โอเอซิส” ทั้งหมด
นั่นเป็นเพียงตัวอย่างคร่าวๆจากในภาพยนตร์ มาดูความเป็นจริงของโลกเราบ้าง ที่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มตัว จากอดีตจนปัจจุบันจะเห็นได้ว่า มนุษย์นั้นไม่หยุดที่จะเรียนรู้ และยังคงพัฒนาสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในด้านต่างๆ หรืออีกนัยนึงคือ เพื่อให้มนุษย์อย่างเราๆมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสะดวกสบายมากกว่าเก่า ไม่ว่าจะเป็นการเกิดขึ้นของอินเตอร์เน็ต ที่ได้เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของมนุษย์ไปจากเดิม หรือแม้แต่การเกิดขึ้นของ blockchain และ cryptocurrency ที่ได้ปฏิวัติวงการเศรษฐกิจโลกไปอย่างสิ้นเชิง กระทั่งการเกิดขึ้นของระบบเทคโนโลยีที่ชื่อว่า AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) ก็ทำให้เราได้สัมผัสกับความแปลกใหม่ มองว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ทำหน้าที่เสมือนกับจิกซอ ที่ผสานกันจนเกิดเป็น Metaverse ขึ้นจริงๆ ซึ่งอุตสาหกรรมต่างๆ ก็เริ่มมีการเอาประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้มาปรับใช้บ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ในการจำลองผ่าตัด เช่นเดียวกันในด้านการทหาร ที่มีการใช้ระบบความเป็นจริงเสมือนเข้าช่วยในการฝึกกระโดดร่ม หรือในอุตสาหกรรมธุรกิจและการลงทุน ที่ผู้คนสามารถทำธุรกรรมต่างๆได้ง่ายขึ้น ไม่ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน แม้แต่จะแสดงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์นั้นๆ ก็สามารถทำได้ โดยการทำ NFT (Non-Fungible Token) ซึ่งอาศัยการใช้ cryptocurrency ที่เป็นสกุลเงินดิจิทัล มาเป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยน และยังมีอีกหลายๆอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์ จากการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีเหล่านี้ แต่ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเกิดของ Metaverse ไปเต็มๆ ก็คงหนีไม่พ้นอุตสาหกรรมเกมส์ออนไลน์ ที่ถูกพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีการสร้างโลกเสมือนจริงลงไปในเกมส์ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดรูปลักษณ์ได้อย่างอิสระ เกิดระบบการแลกเปลี่ยนซื้อขาย และสะสมไอเทมต่างๆ มีสกุลเงินเป็นของตัวเอง รวมถึงมีระบบเศรษฐกิจในเกมส์อย่างชัดเจน ในปัจจุบันได้เกิดเกมส์ต่างๆมากมาย ที่ใส่ความเป็น Metaverse เข้ามา ยกตัวอย่าง Facebook Horizon ที่ถูกพัฒนาโดยทีมงาน Facebook ซึ่งผู้เล่นจะได้สัมผัสกับความมีอิสระอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์ การกำหนดรูปลักษณ์ได้ตามใจชอบ ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าในร้านค้าต่างๆ หรือแม้แต่จะพูดคุยกันโดยที่อยู่กันต่างสถานที่ก็สามารถทำได้ การจะเข้าไปใน Facebook Horizon ได้ผู้เล่นต้องอาศัยอุปกรณ์เสริมอย่างแว่นตา VR ในการเชื่อมโยงโลกเสมือน
กลับมาสู่ในตัวของภาพยนตร์กันบ้าง จะเห็นได้ว่า “โอเอซิส”นั้น ถูกออกแบบมาให้มีความเป็นเกมส์สูง มีภารกิจให้ผู้เล่นเลือกทำ สามารถสร้างตัวตนได้ตามใจชอบ จะกำหนดรูปลักษณ์ให้เป็นอย่างไรก็ได้ที่เราต้องการ มีระบบเศรษฐกิจ แลกเปลี่ยน ซื้อขายของกันโดยใช้สกุลเงินดิจิทัล หรือจะเป็นสถานที่ ที่เรียกว่า (Avatar Outfitters) ซึ่งเป็นแหล่งค้าขายขนาดใหญ่ ที่ผู้เล่นสามารถหาซื้อไอเทมต่างๆใน“โอเอซิส”ได้ แม้แต่จะจับจองเป็นเจ้าของหุ่นยนต์กันดั้ม ที่ตัวละครอย่างไดโตะเป็นเจ้าของ ก็สามารถหาได้ในที่แห่งนี้เช่นกัน ซึ่งใน“โอเอซิส”นั้นมีองค์ประกอบความเป็นเกมส์ในยุคปัจจุบันแทบจะทุกอย่าง การจะเข้าไปใน “โอเอซิส” ได้ก็ต้องอาศัยอุปกรณ์เสริม อย่างแว่นตา VR เหมือนกัน โลกที่มีอะไรใหม่ๆท้าทายเป็นอิสระไม่จำเจ ก็ต้องย่อมดีกว่าโลกที่แสนน่าเบื่อและน่าหดหู่อย่างโลกแห่งความเป็นจริงอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่ผู้คนจะให้ความสำคัญและติดมันอย่างง่อมแง่ม เพราะในที่แห่งนี้ผู้คนสามารถปลดปล่อยความเป็นตัวตนได้อย่างอิสระ ดูรวมๆแล้วมันช่างวิเศษซะเหลือเกิน การใช้งานก็แสนจะง่ายดายไม่ยุ่งยาก แล้วข้อเสียละมันมีบ้างมั้ย แน่นอนว่าพอมันถูกออกแบบให้เป็นเกมส์แล้ว มันก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน ซึ่งคนเล่นเกมส์อย่างเราๆมักจะรู้ว่า ถ้าหากเราได้เล่นเกมส์อะไรที่มันสนุกมากๆ เรามักจะใจจดใจจ่ออยู่กับมัน ลองนึกถึงเด็กที่อยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์เล่นเกมส์ทั้งวันจนลืมเวลากินข้าว หรือใครบางคนอดหลับอดนอนเพื่อที่จะเอาไอเทมชิ้นสำคัญในเกมส์ เหมือนกับในตัวของภาพยนตร์เองนั้นที่ได้สื่อให้เราได้รู้ว่า“โอเอซิส”ได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนแยกความเป็นจริงจากโลกเสมือนไม่ได้ จะมีอยู่ฉากนึงในภาพยนตร์ที่เพอร์ซิวัลได้มีโอกาสเจอกับอาทิมิส ในชีวิตจริง ซึ่งใน“โอเอซิส”เขาไม่รู้เลยว่าเธอหน้าตาเป็นอย่างไร แต่พอได้มาเจอกันจริงๆในสถานที่ ที่แสนจะธรรมดา ไม่ได้สวยเท่าใน“โอเอซิส” เขากลับมองว่ามันสวยงามและสงบ และนางเอกก็พูดขึ้นมาว่า “เราต่างลืมว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไรไปแล้ว” นั้นก็คงเป็นคำตอบได้ว่า“โอเอซิส”นั้น ทำให้ผู้คนแยกแยะความเป็นจริงจากโลกเสมือนไม่ได้ มันเป็นเหมือนกับดาบสองคม ในอีกมุมนึงมันก็แสนจะวิเศษ ตื่นเต้น สนุกสนาน แต่อีกมุมนึง ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ทำให้เห็นถึงการใช้ชีวิตที่แท้จริง เรื่องแบบนี้มันไม่ได้ไกลตัวเราเลย จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตมีบทบาทกับชีวิตประจำวันเราเป็นอย่างมาก ถ้าวันนึงไอสิ่งที่เราเรียกว่าโลกเสมือนหรือ Metaverse มันเกิดเป็นปัญหาที่ทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป เหมือนอย่างในภาพยนตร์ขึ้นมาจริงๆ คำถามคือ เราจะมีวิธีรับมือกับมันอย่างไร ผู้ที่สร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาจะรับผิดชอบต่อชีวิตผู้คนอย่างไรได้บ้าง หรือจะนิ่งเฉยไม่สนใจอะไรเลยเหมือนกับในภาพยนตร์ โดยส่วนตัวคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ สื่อให้เห็นถึงข้อเสียของโลกเสมือนอย่าง“โอเอซิส”มากกว่าข้อดี ตั้งแต่เริ่มเรื่องยันท้ายเรื่อง เรามักจะเห็นผู้คนที่ไม่ได้สนใจในการใช้ชีวิตจริงๆเลย รวมถึงตัวร้ายที่ชื่อซอร์เรนโต ซีอีโอบริษัทไอโอไอ ที่ถูกใส่เข้ามาเปรียบเสมือนกับผู้เล่นที่ใช้สูตรโกงเอาเปรียบคนอื่น ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ครอบครอง“โอเอซิส”มาเป็นของตนเอง ยิ่งการันตีถึงข้อเสียมันมากขึ้น
เหตุผลที่มันมีข้อเสียเยอะ อาจเป็นเพราะว่ามันถูกสร้างโดยคนๆเดียวที่กลัวโลกแห่งความเป็นจริง อย่างฮัลลิเดย์ เขาไม่ได้สร้าง“โอเอซิส”มาเพื่อทุกคน ถึงแม้จะใช้คำว่าทุกคนก็ตาม แต่จริงๆแล้วเขาสร้างมาเพื่อตัวเอง เพราะมันไม่ได้เปลี่ยนให้สังคมหรือผู้คนดีขึ้นเลย แต่กลับทำให้มันแย่ลงด้วยซ้ำ อีกทั้งเขายังเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่ฟังข้อเสนอของใครเลย แม้ว่ามันจะเป็นข้อเสนอจากเพื่อนรักของเขาอย่าง อ็อกเดน มอร์โรว์ ที่พยายามจะให้เขาสร้างกฎขึ้นมาแต่เขาก็ปฏิเสธเพราะต้องการให้ทุกคนได้มีอิสระเต็มที่ในนั้น จนเกิดเป็นช่องว่างที่ทำให้ไอโอไอพยายามเข้ามาแทรกแซงใน“โอเอซิส” ที่เขาเป็นคนสร้าง หรือแม้แต่ในปริศนาเกมส์ทั้ง3 ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาทั้งสิน ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับ“โอเอซิส”เลยซักนิด กระทั่งเรื่องของความรักก็ไม่กล้าพอที่จะเผยความในใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้ จนฝ่ายหญิงตัดใจและไปแต่งงานกับเพื่อนของตนเองอย่าง อ็อกเดน มอร์โรว์ ก็ไปตัดความสัมพันธ์กับคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับตนมา โดยที่ไม่ได้มองย้อนกลับมาดูข้อผิดพลาดของตน สิ่งเหล่านี้มันเลยถูกถ่ายทอดความเป็นตัวตนของเขาไปยัง “โอเอซิส” กล่าวได้ว่า “โอเอซิส”นั้นมันคือตัวตนเขาเอง ที่แสนวิเศษแต่ก็มีข้อผิดพลาด จนสุดท้ายมันส่งผลให้เค้าต้องอยู่ตัวคนเดียว ถึงแม้ว่าจะมีทรัพย์สินมากมายก็ตาม ก็ไม่มีใครจดจำเขาในด้านอื่นๆนอกจากอัจฉริยะผู้สร้างโลกแห่งความฝัน กว่าเขาจะรู้ตัวก็สายเกินที่จะกลับไปแก้ไขอะไรได้ มันจึงเกิดเป็นเกมปริศนาทั้ง 3 เพื่อบอกเป็นนัยยะว่า เขาสำนึกผิดกับผู้คนและโลกแห่งความเป็นจริง สำนึกผิดต่อความขี้ขลาดของตนเอง และสำนึกผิดต่อเพื่อนรักของเขา มันก็คือการไถ่โทษของคนขี้ขลาด เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ชนะเกมส์ปริศนา ก็คือคนที่ยังเห็นคุณค่า ของการสำนึกผิดของเขาอย่างแท้จริง ซึ่งคนนั้นก็คือ เพอร์ซิวัล
ดังนั้นผู้ที่ชนะจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของเขา ในการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด ที่เขาได้ทำลงไปและเรียนรู้ข้อผิดพลาดนั้น เพื่อที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก มันจึงเป็นบทส่งท้าย ที่เพอร์ซิวัลและเพื่อนๆของเขาตั้งกฎขึ้นมา ให้ปิด“โอเอซิส” ทุกวันอังคารและพฤหัส เพื่อให้ผู้คนได้อยู่กับความเป็นจริงมากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว โลกแห่งความเป็นจริงคือสถานที่เดียวที่เราได้กินอาหารดีๆ และโลกแห่งความเป็นจริง คือสิ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นจริง.